เวิลด์แบงก์คาด GDP เวียดนามปี 68 โต 6.8% หวั่นสงครามการค้ากระทบส่งออก
เวิลด์แบงก์คาด GDP เวียดนามปี 2568 โต 6.8% แต่ยังต่ำกว่าเป้ารัฐบาลที่ 8% หวั่นสงครามการค้ากระทบส่งออกชะลอตัวลงเหลือ 12.1%
รอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์)คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ “เวียดนาม” จะเติบโต 6.8% ในปี 2568 และชะลอตัวลงเหลือ 6.5% ในปี 2569 โดยธนาคารโลกระบุถึงความไม่แน่นอนของการค้าโลกซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อประเทศที่มี “การส่งออก” เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
การคาดการณ์ของธนาคารโลกเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเป้าหมายรัฐบาลเวียดนามที่ตั้งไว้อย่างน้อย 8.0% และยังต่ำกว่าปี 2567 ที่เติบโต 7.09%
ธนาคารโลกคาดว่าการเติบโตของการส่งออกจะชะลอตัวลงเหลือ 12.1% ในปีนี้ และจะค่อยๆ ลดลงในปี 2569 เนื่องจากเศรษฐกิจของจีน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการค้าโลกซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของเวียดนามด้วย

เศรษฐกิจของเวียดนามขับเคลื่อนด้วยการส่งออกต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่สหรัฐจัดเก็บภาษีกับคู่ค้า และความเสี่ยงจากสงครามการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ดี ซาชา เดรย์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก กล่าวว่า การลงทุนของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยสนับสนุนอุปสงค์ และส่งเสริมการเติบโตได้มากขึ้น
รวมทั้งการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของตลาดอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการอนุมัติโครงการที่เร็วขึ้น ก็อาจช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศได้มากขึ้นเช่นกัน
2 ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ ‘เวียดนาม’ ปี 68 :
ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยก็มองว่า เศรษฐกิจเวียดนาม ในปี 2568 จะเติบโตกว่า 6.8% ซึ่งสูงกว่าไทยเกือบ 1 เท่า โดยมี 2 ปัจจัยหนุน คือ
* เม็ดเงิน FDI คาดยังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจากมองว่าเวียดนามมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนในสงครามการค้ารอบใหม่
* การส่งออกยังคงเติบโตในเกณฑ์ดี แม้ว่าจะโตชะลอมาที่ 12.0% ในปี 2568 ตามภาวะเศรษฐกิจหลักของโลกที่ชะลอลง และมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐในช่วงครึ่งหลังของปี ส่งผลให้การส่งออกเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี ก่อนภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 12 มีนาคม 2568