งานสัมมนาออนไลน์ Investment Opportunities in Minh Dinh Vietnam
งานสัมมนาออนไลน์ “Investment Opportunities in Binh Dinh Province” จัดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับบริษัท BECAMEX สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม และคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่ญดิ่ญ โดยมีนาย Lam Hai Giang รองประธานคณะกรรมการประชาชน และคณะผู้บริหารจังหวัดบิ่ญดิ่ญเข้าร่วม รวมถึงผู้บริหารธนาคาร EXIM THAILAND บริษัท CPPC Outdoor Wear (Vietnam) และผู้แทนบริษัท BECAMEX ในประเทศไทย ร่วมเป็นวิทยากร เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565
ในโอกาสนี้ คุณคมกริช วรคามินทร์ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูคาเรสต์ โรมาเนีย, ที่ปรึกษาสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม และที่ปรึกษาสมาคมคณะกงสุลกิตติมศักดิ์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวปิดงานสัมมนา และให้ความรู้เรื่อง "การสนับสนุนของสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ต่อนักลงทุนไทย" ดังนี้
(1)สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ภายใต้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งตั้งที่กรุงเทพ ได้รับการจัดตั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2555 เราจะครบรอบ 10 ปีเต็มในเดือนหน้านี้ สภาธุรกิจฯ เป็นองค์กรที่เป็นที่ยอมรับ และเป็นตัวแทน ของนักธุรกิจไทย ที่ทำธุรกิจในเวียดนาม โดยจะเป็นช่องทาง ให้ สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นในเชิงธุรกิจ และทำงานควบคู่ไป กับ รัฐบาล ไทยที่จะส่งเสริม สนับสนุน การค้าและการลงทุนใน เวียดนาม เพื่อเป็นกลไกในการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางการค้าและ การลงทุน รวมถึงผลักดันการแก้ปัญหา อุปสรรคทางธุรกิจ ระหว่าง ไทยและ เวียดนาม ภายใต้การนำของนางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานผู้ก่อตั้ง, นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานที่ผ่านมา และ นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ท่านปัจจุบัน โดยคณะกรรมการจะมีการจัดประชุมไตรมาสละครั้ง โดยมีพันธกิจสำคัญคือ
- ส่งเสริมและเพิ่มพูนการค้าและการลงทุน ระหว่าง ไทย - เวียดนาม
- เป็นแหล่งรวบรวมปัญหาและข้อติดขัดของการทำธุรกิจ และนำ เสนอรัฐบาล เพื่อการปรับเปลี่ยน นโยบายให้ส่งผลต่อการสนับสนุนการค้าและการลงทุน
- ส่งเสริมและสนับสนุนการขยายความร่วมมือ ของธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมของทั้งสองประเทศ
- ส่งเสริมและอำนายความสะดวกในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และวิชาการระหว่างกัน
(2)สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ทำหน้าที่ประสานและส่งเสริมกันและกันอย่างใกล้ชิด ร่วมกับ สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย และสถานทูตไทยประจำเวียดนาม สมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนาม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มพูนด้านความร่วมมือ และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เข้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้ร่วมส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มนักธุรกิจนักลงทุนชาวไทย จัดตั้งเป็นองค์กร คือ The Thai Business (Vietnam) Association ตัวย่อคือ TBA ช่วงระยะเวลาใหญ่ภายใต้การนำของนางสาวศรัณยา สกลธนารักษ์ ผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ ที่กรุงฮานอยและต่อมาที่นครโฮจิมินห์ มาตั้งแต่โอกาสต้น กระทั่งมีการปรับโครงสร้างและจัดตั้งขึ้นเป็น หอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม หรือ The Thai Chamber of Commerce and Industry in Vietnam หรือ ThaiCham เมื่อเร็ว ๆ นี้ ภายใต้การนำของนายปิยพงศ์ จริยเศรษฐพงศ์ ประธานหอฯ ในปัจจุบัน บัดนี้ มีสมาชิกจำนวนมากถึงเกือบ 150 แห่ง/บริษัท
(3)ในปีนี้ สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม ภายใต้การนำของนางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ ประธานคนปัจจุบัน ได้ให้ความร่วมมือในการต้อนรับ ฯพณฯ นางหวอ ถิ แองห์ ซวน รองประธานาธิบดีเวียดนาม ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2022 และมีดำริจัดงาน Vietnam Week ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ลด์ สาขาราชประสงค์ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ ซึ่งน่าจะเป็นกิจกรรมสำคัญ เพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเวียดนาม เชื่อมโยงการการค้า การลงทุน อย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น สภาธุรกิจฯ กำหนดการประชุมเรื่องสำคัญ ๆ เพื่อเตรียมการในสัปดาห์หน้านี้
(4)โดยสังเขป ข้าพเจ้าขอถือโอกาสกล่าวถึงเหตุผลสำคัญ ๆ ทำไมนักธุรกิจไทยจึงน่าลงทุนในเวียดนาม 4-5 ประการ ได้แก่
4.1 ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล
4.2 แรงงานจำนวนมากและในราคาถูก
4.3 ความมีเสถียรภาพและมั่นคงทางการเมือง
4.4 การยอมรับจากต่างประเทศ บัดนี้ เวียดนามได้มีความตกลงเขตการค้าเสรี จำนวน 15 ฉบับแล้วกับ 56 ประเทศ ล่าสุดคือกับสหภาพยุโรป เมื่อปี 2563 ประเทศไทยจะต้องผลักดันการเจรจาทำความตกลงนี้กับสหภาพยุโรป
4.5 ความสัมพันธ์ความร่วมมือไทย-เวียดนามที่ใกล้ชิด สองประเทศอยู่ในระดับการพัฒนา “ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง” ไปสู่ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในอีก 4 ปี
ที่มา สภาธุรกิจไทย-เวียดนาม
วันที่ 30 กันยายน 2565