เริ่มแล้ว! ปิดประตูโบสถ์น้อยซิสทีน 133 พระคาร์ดินัลประชุมลับ เลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่
เริ่มแล้ว! พระคาร์ดินัลปิดประตูโบสถ์น้อยซิสทีน เปิดฉากประชุมลับ เลือกโป๊ปองค์ใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พระคาร์ดินัลของคริสตจักรโรมันคาทอลิกจำนวน 133 รูปจาก 70 ประเทศทั่วโลกได้เริ่มการประชุมลับ (conclave) เพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แล้ว โดยมีการปิดประตูของโบสถ์น้อยซิสทีน นครรัฐวาติกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มการประชุมลับ เมื่อบ่ายวันที่ 7 พฤษภาคม


พระคาร์ดินัลได้เข้าสู่โบสถ์น้อยซิสทีนเพื่อเริ่มการประชุมลับ หลังเสร็จสิ้นพิธีมิสซาที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ซึ่งมีการขอพรให้พระเจ้าทรงโปรดช่วยให้พระคาร์ดินัลเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ที่ 267 หลังสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สิ้นพระชนม์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังจากพิธีมิสซาในช่วงเช้า พระคาร์ดินัล ได้พักรับประทานอาหารกลางวัน และ ไตร่ตรองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนรวมตัวกันที่โบสถ์เปาโล และเดินทางไปยังโบสถ์น้อยซิสทีน พร้อมสวดภาวนา Veni Creator และเมื่อเข้าไปภายในโบสถ์ซิสทีน ภายใต้ภาพจิตรกรรมของไมเคิลแองเจโลแล้ว เหล่าพระคาร์ดินัล ได้กล่าวคำปฏิญาณตามข้อกำหนดของธรรมนูญ Universi Dominici Gregis ว่าจะรักษาความลับ ก่อนที่การลงคะแนนจะเริ่มขึ้น
สำหรับขั้นตอนกล่าวคำปฏิญาณว่าจะรักษาความลับนั้น พระคาร์ดินัลทั้ง 133 รูป ตามลำดับอาวุโส จะต้องเดินไปที่แท่นบูชา โดยปฏิญาณว่าจะไม่พูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ซึ่งจะได้เห็นพระคาร์ดินัลตัวเต็ง ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากพระสันตปาปาฟรานซิส พระคาร์ดินัลเหล่านี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “ปาปาบิเล”
ผู้ที่ให้คำปฏิญาณเป็นรายบุคคลแรก คือพระคาร์ดินัลปีเอโตร ปาโรลิน แห่งอิตาลี ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลขบวนแห่ไปยังโบสถ์ซิสทีน นอกจากนี้ เรายังได้เห็นพระคาร์ดินัลหลุยส์ อันโตนิโอ ทาเกลแห่งฟิลิปปินส์ พระคาร์ดินัล เจอรัลด์ ลาครัวซ์แห่งควิเบก และพระคาร์ดินัล โจเซฟ โทบินแห่งสหรัฐอเมริกา ทั้ง 3 รูปนี้ คาดว่าจะมีโอกาสได้เป็นพระสันตปาปาองค์ต่อไป
สำหรับพระคาร์ดินัลจากประเทศไทย ที่เข้าร่วมพิธีคอนเคลฟ ได้แก่ พระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
ซึ่งในลำดับการลงคะแนนของคาร์ดินัลทั้ง 133 คนที่จะร่วมการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่นั้น จะเรียงลำดับจากคาร์ดินัลบิช็อป, คาร์ดินัลสงฆ์ และคาร์ดินัลสังฆานุกร โดยพระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ของไทยอยู่ลำดับที่ 42
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจาก พระคาร์ดินัล จิโอวานนี เร Dean of the College of Cardinals วัย 91 ปี มีอายุมากเกินกว่าจะลงคะแนนในพิธีคอนเคลฟ หน้าที่ในการเป็นประธานการเลือกตั้ง จึงตกไปอยู่กับพันธมิตรคนสำคัญของพระสันตะปาปาฟรานซิสผู้ล่วงลับ
พระคาร์ดินัล ปีเอโตร ปาโรลิน วัย 70 ปี ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการวาติกัน ตั้งแต่ช่วงต้นสมัยของพระสันตะปาปาฟรานซิส ถือเป็นพระคาร์ดินัล ที่มีอายุน้อยกว่า 80 ที่มีตำแหน่งสูงสุด
โดยหลังจากให้คำปฏิญาณว่าจะรักษาความลับ อาร์ชบิชอป ดิเอโก จิโอวานนี ราเวลลี หัวหน้าคณะกรรมการพิธีกรรมแห่งองค์พระสันตะปาปา ได้ให้คำสั่ง “Extra omnes” ซึ่งเป็นวลีภาษาละตินที่หมายถึงให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปได้
ก่อนที่บุคคลอื่นทั้งหมดจะถูกนำออกไป เหลือเพียงพระคาร์ดินัลผู้เลือกตั้ง 133 คนในโบสถ์ซิสทีนเท่านั้น เป็นการเริ่มต้นพิธีคอนเคลฟขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม การประชุมลับในวันที่ 7 พฤษภาคมจะมีการลงคะแนนเพียง 1 ครั้ง แต่พระคาร์ดินัลจะสามารถโหวตลงคะแนนได้มากสุด 4 ครั้งต่อ 1 วัน จากนั้น ชาวคริสต์ทั่วโลกจะจับตาไปที่ปล่องควันของโบสถ์น้อยซิสทีน หากยังไม่สามารถเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่ได้ จะมีการเผากระดาษให้ควันออกมาเป็นสีดำ และหากพระคาร์ดินัลสามารถลงคะแนนเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่ได้สำเร็จ ควันจากปล่องจะเป็นสีขาวและมีการสั่นระฆังเพื่อเป็นการแจ้งว่าคริสตจักรโรมันคาทอลิกได้เลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แล้ว

นอกจากนั้น ยังมีการจับตาด้วยว่าสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จะสานต่อวิสัยทัศน์แนวทางสายปฏิรูปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส หรือจะนำคริสตจักรโรมันคาทอลิกกลับไปสู่แนวทางเดิมที่เคยเป็นในอดีต ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่าพระคาร์ดินัลรูปใดจะเป็นตัวเต็งในการประชุมลับ แม้สื่อหลายสำนักจะวิเคราะห์ว่า พระคาร์ดินัลปีเอโตร ปาโรลิน ชาวอิตาเลียน ตำแหน่งนักการทูตวาติกัน และพระคาร์ดินัลหลุยส์ อันโตนิโอ โกคิม ทาเกล ชาวฟิลิปปินส์ จะเป็น 2 แคนดิเดตหลัก
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568