ท่องเที่ยวปรับยุทธศาสตร์ ใช้ AI ยกระดับสู่ความยั่งยืน
ท่องเที่ยวเดินหน้าปรับยุทธศาสตร์ มุ่งสร้างสมดุลการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับความยั่งยืนด้านซัพพลายไซด์ พร้อมใช้ AI-เทคโนโลยี ยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยว ขับเคลื่อนความยั่งยืนทุก Tourist Journey ตั้งเป้าเกิดการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม
นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในงานเสวนา “Thailand Tourism Forum 2025-Navigating Global Tourism Trends : Strengthening Thailand’s Tourism Industry” ภายใต้หัวข้อ “Shaping the Future of Tourism Platforms and the Road to 2030 : AI Transforming the Tourism Industry from Global Trends to Thailand” ว่า ททท.ได้เดินหน้ายกระดับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวเร่ง หรือ Enhancer
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายหลักในการส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของ ททท. คือการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับความยั่งยืนด้านซัพพลายไซด์ ซึ่งไม่ใช่เพียงการเพิ่มรายได้ หรือแข่งขันด้านการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกช่วงของ Tourist Journey ได้แก่ ก่อนเดินทาง (Before the Trip), ระหว่างการท่องเที่ยว (During the Trip) และหลังการเดินทาง (After the Trip)
นายธีระศิลป์กล่าวว่า ในช่วงก่อนเดินทาง (Before the Trip) เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยจัดการและนำเสนอข้อมูลให้ถึงมือนักท่องเที่ยวอย่างตรงจุด โดยใช้ AI เพื่อกรองและแนะนำสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวให้เลือกเสพประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในส่วนระหว่างทริป (During the Trip) นั้น แอปพลิเคชั่นหรือเครื่องมือดิจิทัลจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้อย่างสนุก ปลอดภัย และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด หรือการเข้าถึงข้อมูลความปลอดภัยและความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ โดยมองว่าความยั่งยืนไม่ใช่การหลีกเลี่ยงผลกระทบโดยสิ้นเชิง แต่คือการรับรู้และควบคุมผลกระทบนั้นให้อยู่ในระดับที่ฟื้นฟูได้
และในช่วงหลังจากทริป (After the Trip) ททท.มีแนวคิดพัฒนาเครื่องมือที่สามารถรวบรวมประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าของนักท่องเที่ยวไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพ ความประทับใจ หรือข้อมูลการเดินทาง เพื่อนำไปต่อยอดการตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Travelers) ซึ่งกำลังเติบโตและมีอิทธิพลมากขึ้นในระดับโลก
“เราเชื่อว่าเทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือค้นหาข้อมูล แต่เป็นเครื่องมือที่เข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยว และสามารถออกแบบประสบการณ์ให้ตอบโจทย์เฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริง” นายธีระศิลป์กล่าว
ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และโฆษกกระทรวง กล่าวในหัวข้อ “Will Travelers Pay for a Better World ? Rethinking Value in Responsible Tourism : นักท่องเที่ยวยอมจ่ายเพื่อโลกที่ดีกว่าหรือไม่ ? นิยามใหม่ของคุณค่าในยุคท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” ว่า แนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้นจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
โดยประเทศไทยพึ่งพารายได้จากภาคการท่องเที่ยว จึงได้ดำเนินการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในเชิงกีฬา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ภายใต้กรอบแนวคิด Thailand : Grand Tourism and Sports Years 2025 อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมลพิษ PM 2.5 และภาวะโลกร้อน ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยยังมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยยึดแนวทางของประเทศภูฏานที่เก็บค่าธรรมเนียมรายวันจากนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นงบประมาณพัฒนาพื้นที่แบบยั่งยืน ซึ่งการเก็บค่าธรรมเนียมในการเข้าประเทศไม่ใช่การเรียกเก็บเงินเปล่า แต่เพื่อสร้างระบบดูแลแหล่งท่องเที่ยวให้สมบูรณ์และยั่งยืน
โดยมุ่งหวังให้เกิดการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยเชื่อว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็น World-Class Sustainable Destination ได้อย่างแท้จริง
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2568