ทั่วโลกหมดศรัทธา "ดอลลาร์" ขยับตุน "ทองคำ-หยวน" ในฐานะเงินสำรอง
"ดร.จิติพล " ประเมิน ทั่วโลกหมดศรัทธาดอลลาร์ ขยับตุนทองคำ-หยวนแทน แม้ระยะสั้นดอลลาร์ยังมีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่าเงินได้จากความผ่อนคลายประเด็นสงครามการค้า
หลังจากที่สองประเทศมหาอำนาจ “จีน-สหรัฐ” บรรลุข้อตกลงลดภาษีศุลกากรระหว่างกัน 115% เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา “สกุลเงินดอลลาร์” ก็ปรับตัวแข็งขึ้นกว่าราวๆ 3% ตอบรับข้อตกลงดังกล่าวจนนักวิเคราะห์บางสำนักมองว่าเทรนด์ “Sell America” จบลงแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ Head of Global Investment Strategy บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) Finansia Syrus วิเคราะห์กับรายการ "กรุงเทพธุรกิจ Deeptalk" วันที่ 14 พ.ค. ว่า ในระยะสั้นค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจริงเพราะสถานการณ์ของสงครามการค้าคลายตัวลง แต่ในระยะยาวค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกำลังเผชิญแรงกดดันโดยสถานะความเป็นสกุลเงินสำรองของโลกกำลังถูกท้าทายจากระเบียบโลกใหม่

การอ่อนค่ารุนแรงของดอลลาร์ :
"ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ หรือ Dollar Index ร่วงลงอย่างรุนแรงจากระดับ 110 จุด มาอยู่ที่ 98 จุด หรืออ่อนค่ากว่า 10% ในเวลาไม่ถึง 6 เดือน" ดร.จิติพลชี้ให้เห็นถึงการอ่อนค่าที่รวดเร็วของดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2024
สาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องสงครามภาษีที่อาจกระทบเศรษฐกิจอเมริกาและนำไปสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก Fund Manager Survey ของ Bank of America พบว่าความกังวลเรื่องภาวะถดถอยลดลงจาก 50% เหลือ 0% ทำให้ดอลลาร์เด้งกลับขึ้นมาในระยะสั้น
ทว่า ดร.จิติพลมองว่าในระยะกลางถึงยาว "ไม่มีทางที่อเมริกาจะหนีระเบียบโลกใหม่ซึ่งจีนจะขึ้นมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ และเงินดอลลาร์อาจจะไม่ใช่สกุลเงินสำรอง (reserve currency) อีกต่อไป"
"ทุกคนกำลังพยายามขยับตัวออกจากอเมริกาอย่างแนบเนียนและค่อยเป็นค่อยไป" ดร.จิติพลกล่าว พร้อมชี้ว่าปัจจัยพื้นฐานของอเมริกาไม่ได้ดีขึ้น และมีโอกาสสูงที่จะต้องอ่อนค่าเงินดอลลาร์ลงมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การขาดดุลบัญชีการค้า และการขาดดุลบัญชีการคลัง
ทองคำและหยวนขึ้นมาแทนที่ :
ดร.จิติพลวิเคราะห์ว่า "การเปลี่ยนแปลง Reserve Currency โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป (gradually) แล้วจึงเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (suddenly)"
สำหรับตัวเลือกใหม่ในตะกร้าเงินสำรอง ดร.จิติพลมองว่า หยวน "มีโอกาสเป็น Reserve Currency ได้มากขึ้นหากจีนอนุญาตให้มีการสะสม" รวมทั้ง ทองคำก็ "เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงด้านเครดิตที่สามารถเป็น Reserve ได้"
"สัดส่วนของหยวนและทองคำในตะกร้าเงินสำรองทั่วโลกกำลังค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทองคำอาจเพิ่มขึ้นเร็วกว่าหยวนในบางช่วง" ดร.จิติพลกล่าว
แนวโน้มดอลลาร์ในแต่ละช่วง :
ระยะสั้น:
ดอลลาร์แข็งค่าจากการเด้งกลับ หลังจากที่ร่วงรุนแรงมาก่อน
ระยะกลาง: ดร.จิติพลคาดว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าเมื่อ Fed เริ่มลดดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน "การลดดอกเบี้ยจะไม่ใช่การลดแค่ 1 ครั้ง แต่จะเป็นแบบเกือบจะเป็น Series คือ 1-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย"
ระยะยาว:
"ดอลลาร์มีแรงกดดันให้อ่อนค่าลง และสถานะความเป็น Reserve Currency กำลังค่อยๆ ถูกท้าทายจากระเบียบโลกใหม่ที่จีนมีบทบาทมากขึ้น" ดร.จิติพลสรุป
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2568