เดินหน้าพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชื่อม 7 แหล่งดัง จ.เชียงใหม่
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกำลังกับหน่วยงานท้องถิ่น ยกระดับเส้นทาง "สวนรุกขชาติ-ดอยสุเทพ" สู่รูตท่องเที่ยวสายบุญ พร้อมชูแนวคิดจัดระเบียบพื้นที่-รักษาธรรมชาติ คาดดึงนักท่องเที่ยวไทย-เทศ เพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวเมืองรอง
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อหารือแนวทางการพัฒนาและยกระดับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธาจังหวัดเชียงใหม่ (เส้นทางดอยสุเทพ : สวนรุกขชาติห้วยแก้ว-อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย-น้ำตกห้วยแก้ว-วัดผาลาด (สกิทาคามี)-วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร) ณ ห้องประชุมสถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ว่าเป็นความตั้งใจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ต้องการบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว
โดยการกระจายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมของเชียงใหม่ให้เป็นรูตเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสานต่อการดำเนินงานมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาให้นโยบายไว้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ, เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี, อุทยานหลวงราชพฤกษ์, น้ำตกห้วยแก้ว, สวนสัตว์เชียงใหม่, วัดพระธาตุดอยคำ และโบราณสถาณเวียงกุมกาม
นอกจากนี้ ยังมีการหารือแนวทางการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในโซนน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีเป้าหมายที่จะพัฒนาและยกระดับให้เส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธา หรือเส้นทางสายบุญ เป็นการเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเข้าด้วยกัน ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และความต้องการจากภาคส่วนต่าง ๆ
กระทรวงจะนำไปบูรณาการร่วมกับกระทรวงต่าง ๆ แล้วนำมาขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยมีประเด็นหารือดังนี้ เรื่องการแบ่งแนวเขตพื้นที่และมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน, การจัดระเบียบร้านค้าที่บริเวณศาลาจุดชมวิว และตั้งร้านค้าให้อยู่ในตำแหน่งแนวเขตที่ถูกต้อง, การจัดการขยะ, การจัดระเบียบจุดจำหน่ายสินค้าที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ
รวมถึงต้องการให้มีการพัฒนาทางเดินควบคู่ไปกับการปรับปรุงภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ โดยให้อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเส้นทางดังกล่าวด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2568