ทรุดแล้วสู้! Thai Soft Power ปลุกเสน่ห์ไทยกลับมา
จับกระแสประเด็นร้อน ทรุดแล้วสู้! Thai Soft Power ปลุกเสน่ห์ไทยกลับมา
เสน่ห์ไทยลดลงแล้วหรือ หลังตัวเลขไตรมาสแรกของปี 2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย ติดลบถ้าเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
น่าคิดยิ่งนัก เนื่องจากรัฐบาลจัดงานใหญ่เทศกาลสงกรานต์แต่ไม่สามารถดึดดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมา
โดยเฉพาะชาวจีนแม้ยอดยังเป็นที่หนึ่งอยู่ แต่เที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์หายไป
หลายฝ่ายประเมินตรงกันว่า คนจีนกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก จากกรณีจีนเทาเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้ไทยเป็นฐานหรือเป็นทางผ่านไปประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหลอกคนชาติเดียวกันและคนไทย ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งปราบปรามอยู่ในขณะนี้
แน่นอนว่า ช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางปัญหาสงครามการค้า ส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ดูเหมือนไทยเราต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวครั้งใหญ่
งบประมาณ 157,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลคิดจะเอาไปแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 3 ให้วัยรุ่นถูกชะลอ และโยกเงินงบฯส่วนหนึ่ง มาปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สนามกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวก อย่างเช่น ห้องน้ำ ห้องพัก สถานที่ป้ายบอกทาง พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว การติดตั้งระบบ CCTV ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ
และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรอง ถือเป็นการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทย (Thai Soft Power) ไปในตัว
ขณะฤดูฝนนี้ถือเป็นโลว์ซีซันของการท่องเที่ยวของไทย การลงทุนของรัฐบาลน่าจะประคับประคองไม่ให้สถานการณ์แย่ไปกว่านี้ ซึ่งผลกระทบของผู้ประกอบการย่อมทำให้เกิดปัญหาว่างงานและปัญหาสังคมตามมา
นอกจาก “มองเรา” ที่ต้องปรับปรุงตัวเองให้มีเสน่ห์แล้ว ขณะเดียวกัน “มองเขา” ชาวต่างประเทศอีกด้วย
ซึ่งเท่าที่ติดตาม คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ล่าสุด กรณีสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA - Thailand Creative Culture Agency) หรือ “ทักก้า” จับมือกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จัดกิจกรรมเปิดพื้นที่การเจรจาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์กับแขกผู้มีเกียรติจากต่างประเทศ งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส
ร่วมรับประทานอาหารกลางวันและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลสำคัญในแวดวงภาพยนตร์นานาชาติ
ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย ตัวแทนจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก อย่าง เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน และ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติอูดิเน่ รวมถึงผู้แทนจากบริษัทโปรดักชันระดับนานาชาติที่สนใจถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
ต่อยอดความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยสู่เวทีโลก และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของนโยบายการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย
ด้านแฟชั่นมีการเชิญชาวต่างชาติมีพูดคุยถึงการพัฒนาหัตถกรรมสิ่งทอไทยระหว่างนักออกแบบไทยและนักออกแบบต่างประเทศ และการพัฒนาและบ่มเพาะผู้เริ่มต้นทำธุรกิจแฟชั่น เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล Digital Marketing และ AI เพื่อพัฒนาแนวคิดและวางแผนธุรกิจแฟชั่นอย่างเข้มข้น เตรียมพร้อมสู่ตลาดจริงในอนาคต
ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่ “ทักก้า” กำลังเร่งเครื่องทำงาน ใช้ต้นทุนทางแหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม พัฒนาทักษะกำลังคน เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง ดึงดูดนักลงทุนนักท่องเที่ยว ซึ่งการสร้างเสน่ห์ให้ไทยกลับมาอยู่ในใจชาวโลกในอันดับต้น ๆ อย่างที่เคยครองใจเป็นเรื่องที่เป็นไปได้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 22 พฤษภาคม 2568