ทรัมป์ยืดเส้นตายภาษี EU ยูโรพุ่ง ดอลลาร์ฟื้น ตลาดโลกรับสัญญาณบวก
ยูโรแตะระดับสูงสุดในรอบเดือน ดอลลาร์พลิกกลับแข็งค่า หลังทรัมป์เลื่อนเก็บภาษี 50% ต่ออียู ไป 9 ก.ค. สะท้อนความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ ที่อาจเปลี่ยนได้ภายใน 48 ชั่วโมง
ยูโรและดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิสซึ่งเป็นสกุลเงินที่ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในวันจันทร์ หลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม สำหรับข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป โดยได้ยกเลิกคำขู่เดิมที่จะเก็บภาษีนำเข้า 50% ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน
ทรัมป์ประกาศการตัดสินใจดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากโทรศัพท์พูดคุยกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ซึ่งร้องขอเวลาเพิ่มเติมในการบรรลุข้อตกลง วันที่ 9 กรกฎาคมคือวันสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผัน 90 วันสำหรับภาษีในชื่อ “Liberation Day” ของทรัมป์ที่มีต่อสหภาพยุโรปและประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่
การลดความตึงเครียดลงเพียงสองวันหลังจากทรัมป์ออกคำขู่ เป็นเครื่องเตือนที่ชัดเจนถึงความรวดเร็วและกะทันหันของนโยบายการค้าสหรัฐฯ แม้ในขณะเดียวกันก็สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนว่าข้อตกลงสามารถเกิดขึ้นได้ และช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น มาอยู่ที่ 162.60 เยนต่อยูโร และแข็งค่าขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับ 1.1382 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ที่ 1.1382 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นมากถึง 0.4% สู่ระดับ 143.085 เยน หลังจากร่วงลง 1% เมื่อวันศุกร์
สกุลเงินที่อ่อนไหวต่อความเสี่ยงอย่างดอลลาร์ออสเตรเลียและปอนด์อังกฤษก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน โดยดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคมที่ 0.6505 ดอลลาร์ และเงินปอนด์ทรงตัวอยู่ที่ 1.3535 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดของวันศุกร์ที่ 1.3550 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
เรย์ แอททริล หัวหน้าฝ่ายวิจัยอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวว่า ตลาดน่าจะมอง และก็อาจจะถูกต้อง ว่าจุดที่เราจะลงเอยในเรื่องภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป คงไม่ถึง 50% แต่เส้นทางที่เราจะไปถึงตรงนั้น ก็ไม่อาจคาดเดาได้เลยในตอนนี้
ถ้าความคาดหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะต้องเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง นั่นไม่ใช่ข่าวดีสำหรับสกุลเงินที่ขึ้นอยู่กับวัฏจักรเศรษฐกิจหรือการเติบโต เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย
แม้ทรัมป์จะให้ยุโรปได้มีเวลาสำหรับการเก็บภาษีนำเข้า แต่คำขู่ของเขาเรื่องการเก็บภาษี 25% สำหรับ iPhone ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมอย่างมากต่อตลาดเมื่อวันศุกร์ ยังคงอยู่
เพื่อลดความกังวลเรื่องการคลังในตลาด ทรัมป์ยังกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ร่างกฎหมายการใช้จ่ายขนานใหญ่และการลดภาษีของเขาน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ในวุฒิสภา
ตามการประเมินของสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ร่างกฎหมายภาษีในเวอร์ชันของสภาผู้แทนราษฎรคาดว่า จะเพิ่มหนี้ของรัฐบาลกลางจาก 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันอีกประมาณ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษหน้า
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 26 พฤษภาคม 2568