ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ คืนชีพภาษีทรัมป์ นักลงทุนจับตาศึกกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ สั่งพักคำตัดสินการยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ของ ทรัมป์ชั่วคราว หลังศาลการค้าตัดสินว่าประธานาธิบดีเกินอำนาจ ตลาดหุ้นผันผวนรอผลอุทธรณ์
รอยเตอร์รายงานว่า - ศาลอุทธรณ์สหรัฐอเมริกาสั่งคืนสถานะการบังคับใช้ภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากเพียงวันเดียวที่ศาลการค้าสั่งระงับการบังคับใช้ ทำให้นักลงทุนวอลสตรีทสับสนไม่ทราบทิศทางที่แน่ชัด
ความโกลาหลในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดทุนทั่วโลกผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากทรัมป์ประกาศนโยบายภาษี "วันปลดปล่อย" (Liberation Day) เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งถูกเลื่อนและปรับเปลี่ยนหลายครั้ง
หลังจากตลาดทุนเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงต่อการประกาศภาษีในเดือนเมษายน ทรัมป์จึงสั่งพักการเก็บภาษีนำเข้าส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน พร้อมสัญญาว่าจะเจรจาข้อตกลงทวิภาคีกับคู่ค้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวอย่างรุนแรงตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีของทรัมป์ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 4.1% นับตั้งแต่มีการประกาศเก็บภาษี ขณะที่หุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น 2.0%
ราคาทองคำพุ่งขึ้น 5.9% จากวันที่ 2 เมษายน และดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 4.4% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี เพิ่มขึ้น 23 จุดพื้นฐานมาอยู่ที่ 4.4%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดเริ่มคุ้นเคยกับรูปแบบการประกาศภาษีสูงแล้วเลื่อนออกไปของทรัมป์ จนมีการตั้งชื่อย่อว่า "TACO" (Trump Always Chickens Out) โดยสำนักข่าว Financial Times
ศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ วินิจฉัยเมื่อวันพุธว่า รัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่รัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี ในการกำหนดภาษีและอากร ทรัมป์จึงเกินอำนาจเมื่อใช้พระราชบัญญัติอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ ซึ่งมีไว้สำหรับภาวะฉุกเฉินของชาติ
อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์ได้สั่งพักการบังคับใช้คำตัดสินของศาลชั้นต้นชั่วคราว เพื่อพิจารณาการอุทธรณ์ของรัฐบาล โดยกำหนดให้โจทก์ตอบคำให้การภายในวันที่ 5 มิถุนายน และฝ่ายบริหารตอบภายในวันที่ 9 มิถุนายน
สงครามการค้าของทรัมป์สร้างความสั่นคลอนให้กับผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ตั้งแต่กระเป๋าหรูและรองเท้าผ้าใบ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์ เนื่องจากราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น
บริษัทเครื่องดื่ม Diageo และผู้ผลิตรถยนต์อย่าง General Motors และ Ford ต่างยกเลิกการคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปีนี้ ขณะที่บริษัทต่างชาติหลายแห่ง รวมถึง Honda, Campari, Roche และ Novartis พิจารณาย้ายฐานการผลิตหรือขยายการดำเนินงานในสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากภาษี
คู่ค้าสำคัญของสหรัฐฯ ให้การตอบสนองอย่างระมัดระวัง รัฐบาลอังกฤษระบุว่าการตัดสินของศาลเป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ และเป็นเพียงขั้นตอนแรกของกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งเยอรมนีและคณะกรรมาธิการยุโรปแจ้งว่าไม่สามารถแสดงความเห็นต่อการตัดสินดังกล่าวได้
นายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ ต้อนรับการตัดสินของศาลการค้า โดยกล่าวว่าสอดคล้องกับจุดยืนของแคนาดาที่ว่าภาษีของทรัมป์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สกอตต์ เบสเซนต์ กล่าวในรายการข่าวฟ็อกซ์นิวส์ว่า คู่ค้าของสหรัฐฯ "มาหาเราด้วยเจตนาดีและพยายามทำข้อตกลงให้เสร็จก่อนที่การพักภาษี 90 วันจะสิ้นสุด"
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 30 พฤษภาคม 2568