แผนงบจัดการน้ำ 4.39 แสนล้าน เข็น 5.5 หมื่นโปรเจกต์บูรณาการ
ครม.รับทราบงบประมาณ ตามแผนจัดการน้ำ 20 ปี มูลค่า 4.3 แสนล้านบาท ทำ5.5 หมื่นรายการ ตามมติกนช.หลังปรับใช้แนวบูรณาการ 22 หน่วยงาน
8 กระทรวง 67 จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1,643 แห่ง กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา มุ่งวางรากฐาน การพัฒนาลุ่มน้ำ ทั่วประเทศ
ในช่วงเวลานี้หน่วยรับงบประมาณ อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพื่อวางแผนการใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่ามากที่สุด ในส่วนของการจัดการน้ำมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569คณะที่ 6.2 แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2568

การจัดการใช้งบประมาณเพื่อการจัดการน้ำมีองค์ประกอบ 3 อย่างได้แก่
1)ผลการดำเนินงานตามแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
2)การดำเนินงานตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
3)แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)ไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2568
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เมื่อ 4 มิ.ย. 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (แผนปฏิบัติการฯ) และใช้พิจารณาในการจัดทำงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569ตามความนัยมาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 25611ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอหลังการปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี2(แผนแม่บทฯ) จำนวน 55,003 รายการ วงเงิน 439,440.77 ล้านบาท
งบน้ำ4.3แสนล้านดัน5.5หมื่นรายการ :
สำหรับแผนปฏิบัติการฯเป็นการรวบรวมโครงการด้านน้ำของหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศที่จะดำเนินการในแต่ละปีมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อเชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านน้ำของประเทศตามที่ระบุในแผนแม่บทฯ โดยแผนปฏิบัติการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มีโครงการ/กิจกรรม จำนวน 55,003 รายการ วงเงิน 439,440.77 ล้านบาทจาก 22 หน่วยงาน8 กระทรวง 67 จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1,643 แห่ง กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา
ตามแผนนี้พบว่าหากมีผลสัมฤทธิ์จะเพิ่มความจุกักเก็บน้ำ 1,654.05 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะมีพื้นที่รับประโยชน์ 9,266,886 ไร่ และมีประชาชนได้รับประโยชน์ 5,566,528 ครัวเรือน รวมถึงมีพื้นที่ได้รับการป้องกัน (เช่น การป้องกันน้ำท่วม) 3,721,926 ไร่
ทั้งนี้ ตามแผนปฏิบัติการฯ ถูกจำแนกเป็น 2 กลุ่มตามลำดับความสำคัญ ได้แก่ กลุ่มที่ 1คือ แผนงานโครงการที่ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกที่ควรได้รับจัดสรรงบประมาณก่อน ประกอบด้วย โครงการเดิมที่ต้องขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย โครงการตามนโยบายรัฐบาลและโครงการสำคัญตามมติ กนช. โครงการที่สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการจากทั้งระดับจังหวัดและระดับลุ่มน้ำและโครงการที่สามารถขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทฯ ได้
งานเร่งแสนล้านเพิ่มน้ำ7แสนล้านลบ.ม. :
“โดยแผนปฏิบัติการฯ ในกลุ่มนี้มีจำนวน 9,654 รายการ วงเงิน 159,030.9 ล้านบาทมีผลสัมฤทธิ์ คือ เพิ่มความจุกักเก็บน้ำ 735.68 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 2,818,951 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 1,890,807 ครัวเรือน และมีพื้นที่ได้รับการป้องกัน 1,981,660 ไร่”
กลุ่มที่ 2 คือ แผนงานโครงการที่มีความสำคัญในระดับรองลงมาและให้นำไปขอรับการสนับสนุนงบประมาณในแหล่งงบประมาณเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป โดยแผนปฏิบัติการฯ ในกลุ่มนี้มีจำนวน 45,349 รายการ วงเงิน 280,409.87 ล้านบาท มีผลสัมฤทธิ์ คือ เพิ่มความจุกักเก็บน้ำ 918.37 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 6,447,935 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 3,675,721 ครัวเรือน และมีพื้นที่ได้รับการป้องกัน 1,740,266 ไร่
สำหรับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีเป็นแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำเพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาด้านทรัพยากรน้ำของประเทศประกอบด้วย 5 ด้านได้แก่
ด้านที่ 1
การจัดการน้ำอุปโภคบริโภคตัวอย่างโครงการ/กิจกรรม เช่นโครงการพัฒนา/ขุดเจาะน้ำบาดาล [กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)] ,โครงการก่อสร้างระบบประปา และปรับปรุงคุณภาพน้ำประปา [กระทรวงมหาดไทย (มท.)],โครงการก่อสร้างชุดบริการน้ำดื่มและอาคารบริการน้ำดื่ม (กห.),งานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ (มท.),การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต, การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย,การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ และ การบริหารจัดการวางโครงสร้างความมั่นคงน้ำภาคการผลิต
ด้านที่ 2
การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิตตัวอย่างโครงการ/กิจกรรมเช่นโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำพร้อมระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ และงานบำรุง/ซ่อมแซมต่าง ๆ เช่น ซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำ ท่อส่งน้ำ อาคารต่าง ๆ เป็นต้น [กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)],โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ทส.),งานก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน (กษ.),โครงการก่อสร้างฝาย (มท.),งานพัฒนาบ่อน้ำบาดาล (กห. ทส.)
ด้านที่ 3
การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัยตัวอย่างโครงการ/กิจกรรมเช่นโครงการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียดระบบป้องกันน้ำท่วมและระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม (มท.),โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง [กระทรวงคมนาคม (คค.) มท.] ,งานขุดลอกดินตะกอนและแหล่งน้ำ (กห. คค. มท.)
ด้านที่ 4
การอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำตัวอย่างโครงการ/กิจกรรม เช่นโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติมริมคลองแสนแสบ (กรุงเทพมหานคร) ,โครงการลดผลกระทบจากภาคปศุสัตว์ร่วมแก้ปัญหาลุ่มน้ำวิกฤติอย่างยั่งยืน (กษ.) ,โครงการส่งเสริมการปลูกไม้ป่าในเขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์ และโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ทส.),โครงการก่อสร้างศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ (มท.)
ด้านที่ 5
การบริหารจัดการตัวอย่างโครงการ/กิจกรรม เช่นค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษาสำรวจ ออกแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงระบบผลิตประปาหมู่บ้าน (ทส.),โครงการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพน้ำอัตโนมัติ
(มท.),โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้าง ต่าง ๆ เช่น อ่างเก็บน้ำ เป็นต้น (กษ.),โครงการติดตั้งสถานีโทรมาตรอัตโนมัติ เพื่อตรวจวัดข้อมูลภูมิอากาศ ปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ [กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)]
ดึงหน่วยงานบูรณาการ7ลุ่มน้ำ :
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)กล่าวว่า ที่ประชุม กนช. ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี จำนวน 55,003 รายการ โดยให้ สทนช. นำแผนปฏิบัติการที่ปรับปรุงแล้วดังกล่าว เสนอ ครม. เพื่อพิจารณาในการจัดทำงบประมาณประจำปี
ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และได้มีมติเห็นชอบผังน้ำเพิ่มเติมอีก จำนวน 7 ลุ่มน้ำ ประกอบด้วย ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำโตนเลสาบ ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำเพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปประกอบเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำต่อไป
อีกทั้งได้เห็นชอบการขอขยายระยะเวลาและขยายกรอบวงเงินโครงการ โครงการปรับปรุงคลองยม - น่าน จังหวัดสุโขทัย จากเดิม 5 ปี เป็น 8 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 - 2570) และขยายกรอบวงเงินงบประมาณจากเดิม 2,875 ล้านบาท เป็น 3,069 ล้านบาท รวมถึงรับทราบการขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปราจีนบุรี จากเดิม 15 ปี เป็น 18 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 - 2570) โดยให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกำชับให้กรมชลประทานเร่งดำเนินงานทั้ง 2 โครงการ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน โดยรายงานความก้าวหน้าให้ กนช. ทราบทุก 6 เดือน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 8 มิถุนายน 2568