"เทรดวอร์" ยืดเยื้อฉุดส่งออก-ลงทุน ภาคธุรกิจเข้าโหมด Wait and see
KEY POINTS
* สหรัฐฯ-จีน บรรลุกรอบลดภาษีเบื้องต้น แต่รายละเอียดและข้อตกลงยังไม่ชัดเจน และต้องรอการอนุมัติจากผู้นำ
* ภาคเอกชนไทยกังวล "ความไม่แน่นอน" ของสถานการณ์การค้าโลก ซึ่งส่งผลให้การค้าและการลงทุนชะลอตัว
* ไทยกำลังรอการเจรจากับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด และยังไม่แน่ใจว่าจะทันหรือไม่
* ประเด็นเรื่องภาษีแร่หายาก และความแตกต่างของอัตราภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีนเป็นข้อกังวลสำคัญ หากข้อตกลงเป็นไปตามที่พูด จะเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้ความไม่แน่นอนลดลง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงาน นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ แถลงต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวันพุธที่ 11 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐมี “18 คู่ค้าสำคัญ” รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “กำลังทำข้อตกลง” กับประเทศเหล่านั้น
เบสเซนต์ กล่าวว่า เป็นไปได้มากที่สหรัฐจะขยายเวลาให้ประเทศและกลุ่มประเทศ เช่น สหภาพยุโรป ที่กำลังเจรจาอย่างสุจริตใจเพื่อให้เจรจากันด้วยความสุจริตใจต่อไป
คำพูดของนายเบสเซนต์ บ่งชี้ว่ารัฐบาลทรัมป์อาจมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงกำหนดเส้นตายที่กำหนดขึ้นมาเองเมื่อเวลาใกล้เข้ามา
การกำหนดระงับภาษีตอบโต้เป็นเวลา 90 วันของประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกประกาศเมื่อวันที่ 9 เม.ย. เท่ากับว่าจะครบกำหนดในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนนี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งจดหมายไปยังคู่ค้าใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อกำหนดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว ก่อนเส้นตายการระงับภาษีสูงไว้สิ้นสุดลง 9 ก.ค.นี้
“เราจะส่งจดหมายออกไปในอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์ไปยังประเทศต่างๆ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อตกลง” ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวในวันพุธที่ศูนย์ศิลปะการแสดงจอห์น เอฟ. เคนเนดีในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาเข้าร่วมชมการแสดง
ไม่ชัดเจนว่าทรัมป์จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเขาหรือไม่ ประธานาธิบดีมักจะกำหนดเส้นตายสองสัปดาห์สำหรับการดำเนินการ แต่กำหนดเส้นตายนั้นอาจมาช้ากว่ากำหนดหรือไม่มาเลยก็เป็นได้
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ประธานาธิบดีเคยกล่าวว่าจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับคู่ค้าของสหรัฐ “ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า”
ในเดือน เม.ย.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีคู่ค้าหลายสิบประเทศ แต่กลับระงับการขึ้นภาษีไว้เป็นเวลา 90 วัน เนื่องจากตลาดผันผวน และนักลงทุนกลัวว่าการขึ้นภาษีจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอย
จับตาการเจรจาการค้าส่อล่าช้า ซ
ทั้งนี้แม้เจรจากันต่อเนื่อง กรอบการค้าเดียวที่สหรัฐบรรลุได้คือสหราชอาณาจักรและการสงบศึกการขึ้นภาษีกับจีน แม้การสงบศึกกับจีนยังถูกคุกคามหลังจากวอชิงตันและปักกิ่งกล่าวหาซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้พูดคุยกันยาวนานในลอนดอนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับแผนการปฏิบัติตามข้อตกลงของ 2 ประเทศ
เมื่อถูกถามระหว่างการแสดงว่าเขาจะขยายเวลาให้ประเทศต่างๆ เพื่อทำข้อตกลงกับรัฐบาลของเขาก่อนที่ภาษีที่สูงขึ้นจะมีผลบังคับใช้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่าเขาเปิดกว้างสำหรับเรื่องนี้
ทรัมป์เคยเสนอว่าเขาจะเจรจากับคู่ค้าแต่ละราย แต่ได้เปลี่ยนความคิดจากเดิม โดยให้ความสำคัญกับการเจรจากับหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญบางราย และยอมรับว่ารัฐบาลไม่มีศักยภาพที่จะเจรจาข้อตกลงกับรายประเทศกับหลายสิบประเทศได้ ทีมงานของทรัมป์ยังทำงานเพื่อให้ได้ข้อตกลงทวิภาคีกับอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงสหภาพยุโรป
ทรัมป์เผยปิดดีลการค้า-สรุปภาษีจีน 55% ซ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ทรัมป์โพสต์ข้อความระบุว่า “สหรัฐบรรลุกรอบข้อตกลงการค้ากับจีนได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว” ซึ่งรวมถึงข้อตกลงที่ปักกิ่งจะจัดหาแร่หายาก “ล่วงหน้า” ให้สหรัฐ ขณะที่วอชิงตันจะเปิดรับนักเรียนจีนที่มาศึกษาในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐ
“ข้อตกลงกับจีนเสร็จสิ้นแล้วขึ้นกับการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีสีและผม” ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดีย โดยอ้างถึงผู้นำจีน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
ความเห็นของทรัมป์มีขึ้นตามมาหนึ่งวันหลังจากผู้แทนเจรจาการค้าสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงในการประชุมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เกี่ยวกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขการสงบศึกภาษีศุลกากร “แม่เหล็กทั้งหมดรวมถึงแร่หายากที่จำเป็นจะถูกส่งล่วงหน้าโดยจีน”
“เช่นเดียวกันสหรัฐจะจัดหาให้จีนตามที่ได้ตกลงกันไว้ รวมถึงการให้นักเรียนจีนเข้าเรียนในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยของเรา (ซึ่งผมเห็นว่าเป็นเรื่องดีมาตลอด) ตอนนี้เราจะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนรวม 55% ส่วนจีนจะเก็บจากเราที่ 10% ความสัมพันธ์ 2 ประเทศถือว่ายอดเยี่ยม!”
อย่างไรก็ตาม บลูมเบิร์กระบุว่าถ้อยแถลงของทรัมป์มีเงื่อนไขบางประการที่ไม่ได้ปรากฏในการเจรจาอย่างเป็นทางการ เช่น การที่จีนจะจัดส่งแร่ธาตุสำคัญให้โดยทันที นอกจากนี้เขายังระบุว่า สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าจีนในอัตรา “รวม” ทั้งสิ้น 55% แม้ว่าอัตราที่แน่ชัดจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่ง ตัวเลขดังกล่าวประกอบด้วยอัตราภาษีพื้นฐาน 10% ส่วนอีก 20% เป็นภาษีตอบโต้ที่เชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิล และอีกประมาณ 25% เป็นมาตรการภาษีที่มีอยู่แล้วตั้งแต่การดำรงตำแหน่งของทรัมป์ในช่วงวาระแรก รวมกับอัตราภาษีประเทศที่ได้รับการอนุเคราะห์ยิ่ง (MFN)
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังไม่ได้ตอบทันทีต่อการขอความเห็นในเรื่องนี้
ส.อ.ท.ชี้สถานการณ์ยังไม่แน่นอน :
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากการที่ผู้แทนสหรัฐและจีนเจรจาจนได้กรอบลดภาษีจากเดิมสหรัฐเก็บจากจีน 145% ให้เหลือ 55% ส่วนจีนเก็บสหรัฐ 125% ให้เหลือ 10% เท่าเดิมนั้น ยังมีสาระสำคัญบางเรื่องที่รายละเอียดไม่ชัดเจน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นฝ่ายออกมาพูดก่อนเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าตนเองนั้นประสบความสำเร็จในการเจรจา แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีข้อตกลงกัน อาทิ การที่จีนได้จำกัดการส่งออกแร่ทั้งหมด 7 ตัว
ขณะที่สหรัฐจะผ่อนคลายในการจำหน่วยชิปในบางตระกูลและบางรุ่นใหญ่ๆ ที่จีนใช้ในปริมาณสูงซึ่งข้อสาระสำคัญในเวทีนี้ การจะได้รับการอนุมัติทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องนำข้อตกลงร่วมกันนำเสนอผู้นำประเทศของตนเองเพื่ออนุมัติ ดังนั้น อย่างน้อยก็เห็นว่าการเจรจาบนโต๊ะก็มีเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น ไม่ถึงกับปิดประตูตายต่อกัน คลี่คลายลงบ้าง
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาต่อ คือ การที่สหรัฐจะเจรจากับประเทศอื่นต่อไปรวมถึงไทย ซึ่งเหลือเวลากว่า 20 วัน ไทยได้รับสัญญาณว่าจะเชิญไปเจรจาแล้ว แต่ระหว่างนี้ไม่ทราบว่าจะเจรจาทันกรอบเวลาที่ขยาย 90 วันหรือไม่ แต่ล่าสุด “สก็อตต์ เบสเซนต์” ได้ประกาศว่าอาจขยายเวลาอีก แต่การขยายเวลาในการเจรจาในลักษณะนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นผลดีหรือไม่ดี
“สิ่งที่กังวลขณะนี้ยิ่งการเจรจาใช้เวลานานไม่มีข้อสรุปยิ่งนานเท่าไหร่ นักลงทุนก็จะต้องหยุดชะงักงัน หรือ wait and see เพื่อรอความชัดเจนอีกครั้ง อาจจะเป้นผลที่ไม่ดีก็ได้” นายเกรียงไกร กล่าว
นักธุรกิจกังวลทำการค้ายาก :
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทยและนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีออกมาระบุดังกล่าว ผลของจีนและสหรัฐเป็นเพียงการเจรจาการค้ากันเท่านั้น ส่วนจะปิดดีลนี้ได้แน่หรือไม่นั้น ก็ยังไม่แน่ใจ เพราะตอนท้ายนายทรัมป์ยังระบุว่า ขั้นตอนสุดท้ายขึ้นอยู่กับตนและประธานาธิบดีจีน ซึ่งมองว่ายังไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตามก็ยังถือเป็นสัญญาณบวกที่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจสามารถเจรจากันได้ แต่จบตัวเลขที่เท่าไรนั้นมองว่ายังไม่นิ่ง โดยเฉพาะตัวเลขการเก็บภาษีแร่หายากที่ตัวเลขเก็บภาษีจีนอยู่ที่ 55% ส่วนจีนเก็บสหรัฐ 10% ซึ่งทางฝั่งจีนจะยอมตัวเลขนี้หรือไม่ เพราะมีความต่างกันมาก ซึ่งตัวแร่หายากสหรัฐจะนำเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการผลิตชิป แทนที่จีนซึ่งทางจีนจะยอมหรือไม่
“หากข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเป็นไปตามที่นายทรัมป์โพสต์ ถือเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดโลกที่จะทำให้ความไม่แน่นอนชัดเจนขึ้น เพราะสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือความไม่แน่นอนที่ทำให้การค้าเดินต่อยาก เช่น ถ้าจะขายสินค้า 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี การจะ forecast สินค้าล่วงหน้าไม่ได้เลย และปิดดีลกันแต่ละประเทศก็ยากเพราะทุกประเทศก็กังวลหมด “นายวิศิษฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ เหลือเวลาอีก 29 วันจะครบ 90 วันที่ภาษีตอบโต้ของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งแต่ละประเทศต้องได้รับเจรจาภาษีกับสหรัฐ แต่ยังไม่มีประเทศไหนเจรจาจบ โดยระยะ 29 วันนี้ทุกประเทศที่ถูกเก็บภาษีจะปิดดีลกับสหรัฐได้หรือไม่ หากไม่ทันจะทำอย่างไร
รวมทั้ง สหรัฐจะใช้วิธีการแบบใดเก็บภาษี เช่น แบ่งกลุ่มเก็บภาษี หรือเลื่อนออกไป 90 วัน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ยากที่จะมีการซื้อขายล่วงหน้าหรือแม้แต่การลงทุนก็ชะลอตัว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 13 มิถุนายน 2568