"ชัชชาติ" เผย ปธ.สภาหอฯ ชม "กทม.ทำงานเร็วมาก" ตั้ง กรอ.แก้ปัญหาเศรษฐกิจ คืบหน้าหลายอย่าง
วันที่ 10 ตุลาคม ที่ห้องประชุม ชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 22/2565 เรื่องการดำเนินการคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน กรุงเทพมหานคร (กรอ.กทม.) เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน
นายชัชชาติกล่าวว่า ได้อาศัยกลไกในการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประสานความร่วมมือในการทำงานแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ พร้อมสนับสนุนขับเคลื่อนให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศในอนาคต และเป็นการขับเคลื่อนผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย ภายใต้มิติเศรษฐกิจดี ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ร่วมกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย โดยได้มีการประชุมครั้งแรกกันไปแล้ว มีความคืบหน้าหลายอย่าง
ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานได้มีข้อเสนอ อาทิ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอปรับรูปแบบการขออนุญาตก่อสร้างให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ การทบทวนราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การยกระดับสตรีทฟู้ด (Street Food) โดยการสร้าง Ecosystem ที่เหมาะสมกับการพัฒนาและบ่มเพาะผู้ประกอบการ SMEs
นายชัชชาติกล่าวว่า ส่วน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เสนอเรื่องโครงการบริหารจัดการขยะและการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะ (Upcycling) โครงการฟื้นฟูและปรับปรุงคลองต้นแบบ อาทิ คลองหัวลำโพง โครงการจัดการความปลอดภัยร้านอาหาร Street Food & Safety Food ด้าน สมาคมธนาคารไทย เสนอนำเทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาช่วยในการพัฒนา กทม. และผลักดันให้เกิด Digital Transformation ร่วมส่งเสริมการเข้าถึงสินเชื่อประเภทต่างๆ ของประชาชนใน กทม. เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และสนับสนุนการพัฒนา กทม. เป็นเมืองนำร่องในการเชื่อมโยงระบบชำระเงินของนักท่องเที่ยวในภูมิภาค
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับ กทม.เสนอการผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค (Regional Hub) และขอความร่วมมือภาคเอกชนร่วมกันเวิร์กฟรอมโฮม ในช่วงวิกฤตฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่างเดือน ธันวาคม 2565-กุมภาพันธ์ 2566 ทั้งนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานย่อยขึ้นมาดำเนินการ รวมถึงรายงานความคืบหน้าให้คณะกรรมการชุดใหญ่ทราบเพื่อดำเนินการ
นายชัชชาติกล่าวว่า ผลตอบรับจากการที่ประชุมร่วมกับ กรอ.กทม.เห็นว่า กทม.ทำงานได้เร็วมาก เพราะเพิ่งไปเจอมาเมื่อไม่กี่เดือน สามารถตั้งคณะทำงาน และยังมีโครงการนำร่องแล้ว โดย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย ได้ชมว่าเป็นการทำงานที่เร็วโดย ตนเชื่อว่าในระดับเมืองสามารถตอบสนองได้เร็ว เมืองคือตลาดแรงงาน ดังนั้น เอกชนมีส่วนสำคัญในการสร้างเมือง เพราะเป็นคนสร้างงานซึ่ง กทม.มีคนแค่ 80,000 คน แต่หลายล้านคนถูกจ้างงานโดยเอกชน
“การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐเอกชน คือหัวใจของการอยู่รอดของเมืองในอนาคต และไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย เราได้มีการร่วมมือกับหลายหอการค้า โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ไปเจอกับหอการค้าอเมริกาที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งมีอัตราการจ้างงานหลายแสนคน ก็อยากจะมาคุยกับ กทม.หลายเรื่อง เพราะสหรัฐอเมริกามีธุรกิจในรูปแบบของโรงแรมเยอะ อยากจะเห็นการดูแลนักท่องเที่ยว การลดการโกงแท็กซี่
“เป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะต้องช่วยดูแล เพราะสิ่งต่างๆ เราทำให้เห็นว่าเกิดเป็นรูปธรรมได้จริง เชื่อว่าในระดับเมืองสามารถแก้ปัญหาได้เร็ว และเมืองคือผู้ปฏิบัติที่อยู่หน้างาน บางครั้งอาจตอบโจทย์เอกชนได้เร็วกว่า ระดับใหญ่อาจมีขั้นตอนเยอะ” นายชัชชาติชี้
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ในส่วนของประเด็นฝุ่น PM2.5 กรอ.กทม.มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนในเรื่องความร่วมมือ มองว่ายังไม่ถึงเวลา แต่เชื่อว่าหลายเรื่องพร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งเราชินกับการทำงานแบบเวิร์กฟรอมโฮมมาในช่วงโควิด-19 คงไม่ได้เป็นสิ่งที่เหลือบ่ากว่าแรง แต่ได้มีการบอกให้เตรียมตัว หากมีเหตุวิกฤตจริงๆ อาจจะต้องขอความร่วมมือ ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 10 ตุลาคม 2565