พลังงานสะอาดไทยอืด กระทบดึงทุนนอก - Data Center
ทีดีอาร์ไอ เตือนไทยใช้พลังงานสะอาดแค่ 15% ขณะเวียดนาม 38% เป็นจุดอ่อนดึงนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุน ฉุดเป้าหมายสู่ Net Zero แนะเร่งเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด วางแผนด้านพลังงานให้เกิดบูรณาการ และเปิดให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
กางแผนลดก๊าซเรือนกระจก 2564-2573 :
ในแผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี พ.ศ. 2564 -2573 (NDC Action Plan on Mitigation 2021-2030) ซึ่งเป็นแผนระยะสั้นที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ.2065 ตามที่มีการตกลงไว้ ผ่านการดำเนินงาน 5 สาขาหลัก โดยเน้นไปที่สาขาพลังงานและสาขาขนส่ง ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด
ทั้งนี้ สาขาพลังงานมีเป้าหมาย ที่จะลดก๊าซเรือนกระจก 124.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า(MtCO2eq) โดยพุ่งเป้าไปที่การส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ ขยะ การพัฒนาเชื้อเพลิงเอทานอล การพัฒนาเชื้อเพลิงไบโอดีเซล และการพัฒนาพลังงานสะอาดใหม่ คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 90.20 MtCO2eq

ขณะที่มาตรการเทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอนได ออกไซด์(CCS) คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1 MtCO2eq จากโครงการนำร่องการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติอาทิตย์ในอ่าวไทย
ส่วนสาขาคมนาคมขนส่ง มีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 45.61 MtCO2eq จะเน้นไปที่การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) ที่คาดว่าจะลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 28.29 MtCO2eq
ไทยล่าช้ากว่าเพื่อนบ้าน 15 ปี :
ดร. อารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการ และทีมงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ชี้ให้เห็นว่า การตั้งเป้าหมายในการบรรลุ (Net Zero) ของประเทศ มีแผนล่าช้ากว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม ที่มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050 และอินโดนีเซีย ตั้งเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2060 เป็นต้น
โดยเฉพาะการมุ่งดำเนินงานของไทยในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ที่จะมาช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญจากโครงสร้างพลังงานที่ยังพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลในสัดส่วนที่สูงถึง 85% ในปี 2023 ไทยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพียง 15% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างชัดเจน สะท้อนว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของไทยยังช้ากว่าหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะเวียดนามที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดถึง 38%
ทั้งนี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด สะท้อนจากร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย(PDP 2024) ที่อยู่ระหว่างการจัดทำ มีแผนเพิ่มการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดเป็น 51% ภายในปี 2037 และเป็น 74% ภายในปี 2050
แต่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีการทบทวนหรือปรับปรุงร่างใหม่ จากที่เคยผ่านการรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเมื่อช่วงกลางปี 2567 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเวียดนาม ที่ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตของโครงการพลังงานจากลม 6 GW ภายในปี 2030 และ 70-91.5 GW ภายในปี 2050 เป็นต้น
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 18 มิถุนายน 2568