Vingroup เป็นหนึ่งใน 40 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นี่เป็นปีที่สองที่นิตยสารเผยแพร่การจัดอันดับ ซึ่งอิงจากรายได้รวมและตัวชี้วัดทางการเงินที่สําคัญขององค์กรจากเจ็ดประเทศในภูมิภาค ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา
Vingroup กลุ่มบริษัทเวียดนามได้ไต่อันดับขึ้นแปดอันดับเป็นอันดับที่ 37 ใน Fortune Southeast Asia 500 ซึ่งเป็นรายชื่อองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค 500 แห่งที่รวบรวมโดย Fortune นิตยสารธุรกิจที่มีชื่อเสียงของอเมริกา
นี่เป็นปีที่สองที่นิตยสารเผยแพร่การจัดอันดับ ซึ่งอิงจากรายได้รวมและตัวชี้วัดทางการเงินที่สําคัญขององค์กรจากเจ็ดประเทศในภูมิภาค ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา
จากข้อมูลของ Fortune Vingroup ติดอันดับหนึ่งในองค์กรเอกชนในเวียดนาม กลุ่มนี้ได้รับคะแนนสูงไม่เพียงแต่สําหรับขนาดสินทรัพย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพทางธุรกิจและประสิทธิภาพทางการเงินด้วย ในปี 2024 Vingroup มีรายได้ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและกําไร 475.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี 11.4% และ 450.5% ตามลําดับ สินทรัพย์รวมสูงถึง 32.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Vingroup ดําเนินงานในหลากหลายภาคส่วน ตั้งแต่อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี การค้าและบริการ และการกุศลเพื่อสังคม ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน ระบบนิเวศของเทคโนโลยีได้รับความเข้มแข็งยิ่งขึ้นในปี 2024 ด้วยการเปิดตัว VinRobotics และ VinMotion ในขณะที่กองทุนนวัตกรรม VinIF และ VinVentures ยังคงสนับสนุนนักวิทยาศาสตร์และสตาร์ทอัพทั่วประเทศ
ในกลุ่มบริการเชิงพาณิชย์ แบรนด์ต่างๆ เช่น Vinhomes, Vincom และ Vinpearl ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาเมืองแบบบูรณาการของ Vinhomes ที่มีการวางแผนที่ครอบคลุม พื้นที่สีเขียว และสิ่งอํานวยความสะดวกที่ทันสมัย มีส่วนช่วยในการสร้างวิถีชีวิตร่วมสมัยในเวียดนาม
เกี่ยวกับภาคบริการสังคม Vinschool, VinUni และ Vinmec ยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านขนาดและคุณภาพ ซึ่งมีส่วนสําคัญต่อระบบการศึกษาและการดูแลสุขภาพของประเทศ
ในปีนี้ Vingroup วางแผนที่จะขยายไปสู่พลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและปรับปรุงคุณภาพชีวิตทั่วประเทศ
ตัวแทนบริษัทกล่าวว่าการกํากับดูแลกิจการที่แข็งแกร่งพร้อมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในทุกการดําเนินงานจะเป็นกุญแจสําคัญในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตของกลุ่ม ตอกย้ําตําแหน่งในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงสีเขียวและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในเวียดนามและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม
ที่มา vietnamplus.vn
วันที่ 20 มิถุนายน 2568