เยอรมนีและไอร์แลนด์กำลังเผชิญความเสี่ยงสูงสุดจากนโยบายภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่สหภาพยุโรปเร่งเจรจาข้อตกลงการค้ากับวอชิงตัน

 

จากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยชั้นนำในยุโรป พบว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะประสบผลกระทบไม่เท่ากันจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ โดยเยอรมนีและไอร์แลนด์โดดเด่นเป็นสองประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด

 

เยอรมนีรับผลกระทบจากภาษีรถยนต์ :

 

เยอรมนีซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านการผลิตรถยนต์ของยุโรป กำลังเผชิญกับความท้าทายใหญ่จากภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนใหม่ที่อัตรา 25% ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนเมษายน 2025

 

ข้อมูลระบุว่าการส่งออกของเยอรมนีไปสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 22.7% ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ การวิเคราะห์เบื้องต้นชี้ว่าภาษีดังกล่าวอาจลดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเยอรมนีลงถึง 0.4% ในระยะยาว

 

นักวิเคราะห์ชี้ว่าประเทศเล็กในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมของเยอรมนี เช่น ออสเตรีย ก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน

 

ไอร์แลนด์เสี่ยงจากภาษียา :

 

ไอร์แลนด์ถือเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุดจากภาษีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในภาคยา เนื่องจากการส่งออกสินค้าของไอร์แลนด์ไปสหรัฐฯคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 53.7% ของการส่งออกทั้งหมด

 

ที่น่าวิตกยิ่งกว่าคือภาคยาซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของไอร์แลนด์ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 55% ของการส่งออกของประเทศ และการส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็น 18% ของ GDP ของไอร์แลนด์

 

ความกังวลเรื่องภาษียาสูงถึง 200% :

 

ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งประกาศว่าอาจจะเก็บภาษีสินค้ายาที่นำเข้าจากต่างประเทศสูงถึง 200% แม้ว่านักวิเคราะห์จะมองว่าการกำหนดอัตราสูงเกินไปนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้จริง เนื่องจากจะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

แทนที่จะเป็นการเก็บภาษีจริง ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นการส่งสัญญาณแรงกดดันให้บริษัทยาต่างชาติลดราคาและเพิ่มการลงทุนในการผลิตยาในสหรัฐฯ

 

ผลกระทบรวมต่อเศรษฐกิจสหภาพยุโรป :

 

สหภาพยุโรปส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ 20.6% ของการส่งออกทั้งหมดนอกกลุ่ม ทำให้สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่ง

 

การประเมินเบื้องต้นระบุว่าภาษีอาจลด GDP ของสหภาพยุโรปโดยรวมประมาณ 0.3% เมื่อเทียบกับการเติบโตที่คาดการณ์ไว้ 1.1% ในปี 2025

 

นอกจากเยอรมนีและไอร์แลนด์แล้ว ประเทศอื่นๆ ที่มีมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ ได้แก่ อิตาลี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ก็จะได้รับผลกระทบในระดับที่แตกต่างกันไป

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าภาษีเพียงอย่างเดียวอาจลดปริมาณการค้าของสหภาพยุโรปลงถึง 8% ในช่วงห้าปีข้างหน้า

 

ความไม่แน่นอนกระทบการลงทุนและการจ้างงาน :

 

ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การค้าอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียการลงทุนและงานในทั้ง 27 ประเทศสมาชิก แม้แต่ประเทศที่มีการส่งออกไปสหรัฐฯในสัดส่วนที่จำกัด เช่น ฝรั่งเศสและสเปน ก็อาจได้รับผลกระทบจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกโดยรวม

 

ขณะนี้สหภาพยุโรปกำลังเร่งเจรจาหาข้อตกลงการค้าใหม่กับสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการภาษีใหม่เหล่านี้

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 12 กรกฏาคม 2568