ฮ่องกง ตลาดผลไม้ส่งออกสำคัญของไทย โตแรงแม้เศรษฐกิจผันผวน
ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกผลไม้ที่สำคัญของไทย โดยในปี 2567 มูลค่ารวมของการส่งออกผลไม้สด ผลไม้แช่เย็นและผลไม้แช่แข็งจากไทยไปฮ่องกงสูงถึง 96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสูงสุดเป็นอันดับ 9 ของโลก รองจากจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ เวียดนาม ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร จากสถิติในเดือนพฤษภาคม 2568 พบว่าฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของไทย คือ ร้อยละ 46.2
แม้ฮ่องกงมีความได้เปรียบในฐานะตลาดที่เปิดกว้าง และเป็นเมืองท่าปลอดภาษี ในขณะเดียวกัน ฮ่องกงกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่ลดลง อัตราการบริโภคภายในที่ชะงักงัน การชะลอการลงทุนของภาคเอกชน สภาพเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว ตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะชะงักงัน รวมถึงค่าครองชีพ และค่าเช่าพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ที่อยู่ในระดับสูงมาก
แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคและสภาพแวดล้อมทางการค้าของฮ่องกง
ฮ่องกงมีข้อจำกัดด้านพื้นที่เพาะปลูก โดยที่ดินเพื่อการเกษตรมีเพียงร้อยละ 3.2 ของพื้นที่ทั้งหมด ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศอยู่ในระดับสูง เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคของประชากรกว่า 7.54 ล้านคน ปัจจุบัน ฮ่องกงนำเข้าสินค้าอาหารและผักผลไม้จากต่างประเทศมากกว่าร้อยละ 95 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นตลาดส่งออกผลไม้สำคัญของไทย
นอกจากนี้ กระแสความนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ยังมีส่วนทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากหันมารับประทานผลไม้เป็นประจำ โดยจากข้อมูลของสำนักงานสถิติฮ่องกงในปี 2567 ระบุว่า ประชาชนในฮ่องกงบริโภคผลไม้เฉลี่ยปีละ 71 กิโลกรัม อีกทั้งผลไม้ยังเป็นของขวัญยอดนิยมในการเยี่ยมญาติผู้ใหญ่หรือติดต่อธุรกิจ ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่อง
ด้านศักยภาพทางเศรษฐกิจ ข้อมูลจากรายงาน World Competitiveness Yearbook 2568 โดย International Institute for Management Development (IMD) ระบุว่า ฮ่องกงเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันเป็นอันดับ 3 ของโลกในภาพรวม และเป็นอันดับ 1 ด้านนโยบายภาษีและกฎหมายที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ฮ่องกงยังอยู่ในอันดับ 2 ด้านการเป็นศูนย์กลางการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศ และอันดับ 3 ด้านการค้าระหว่างประเทศและระบบศุลกากร ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมทั้งในด้านกำลังซื้อและโครงสร้างการค้า
ด้วยบทบาทดังกล่าว ฮ่องกงจึงยังคงเป็นตลาดส่งออกผลไม้ที่มีศักยภาพสูงของไทย และยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปยังเขตเศรษฐกิจสำคัญอื่น โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งรับสินค้าส่งออกจากฮ่องกงมากถึงร้อยละ 70 ของทั้งหมด โดยมีมูลค่าส่งออกไปยังเขต Greater Bay Area เพียงแห่งเดียวสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565
โอกาสของผลไม้ไทยในตลาดระดับบนของฮ่องกง
ผู้บริโภคในฮ่องกงมีพฤติกรรมนิยมรับประทานผลไม้ตามฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยส่งออกผลไม้สดไปยังฮ่องกงมากที่สุด ผลไม้ยอดนิยม ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย มะม่วง มะพร้าว และผลไม้เมืองร้อนอื่น ๆ ในบรรดานี้ ทุเรียนสดจากประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง ซึ่งครองตลาดระดับกลาง ในขณะที่พันธุ์มูซันคิง (Musan King) จากมาเลเซียเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มตลาดระดับบน ทั้งนี้ มูลค่าตลาดทุเรียนในฮ่องกงสูงถึง 404 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
พฤติกรรมผู้บริโภคในฮ่องกงสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญที่ให้กับคุณภาพของสินค้าและภาพลักษณ์ มากกว่าราคา ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้นหากสินค้ามีคุณภาพและตรงกับกระแสนิยม แม้ผลไม้ไทยจะมีภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องความสด ความหลากหลาย รสชาติอร่อย และราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังถูกจัดอยู่ในตลาดระดับกลาง การขยายสู่ตลาดระดับบนจึงถือเป็นโอกาสที่สำคัญ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสนับสนุนการส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การแข่งขันกับผลไม้จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งครองตลาดระดับบนด้วยมาตรฐานคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ ขณะที่ผลไม้จากออสเตรเลียมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยและสุขภาพ หากผู้ประกอบการไทยต้องการเข้าถึงตลาดระดับบนมากขึ้น จำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ อีกทั้งการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น GlobalGAP และ HACCP ก็จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในตลาดฮ่องกงได้มากขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้ส่งเสริมการใช้ตราสัญลักษณ์ Q เพื่อการันตีคุณภาพผลผลิต ซึ่งส่งผลให้ผลไม้ไทยสามารถเข้าสู่ร้านค้าปลีกระดับบนในฮ่องกงได้มากขึ้น เช่น City’ Super, Oliver’s และ The Great Food Hall ร้านค้าเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกสินค้าอย่างพิถีพิถัน ติดฉลากระบุประเทศต้นกำเนิด และให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยในตลาดฮ่องกงอย่างยั่งยืน (ข้อมูล สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง, เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)
ที่มา globthailand
วันที่ 14 กรกฏาคม 2568