เส้นทางใหม่ "ชื่อสุ่ย–กรุงเทพฯ" เสริมยุทธศาสตร์จีนตอนใน เปิดประตูการค้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อกล่าวถึงการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับจีน "แม่น้ำโขง" คือชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง เนื่องจากเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างภาคเหนือของไทยกับมณฑลยูนนานของจีน อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของสภาพร่องน้ำและระดับน้ำที่แปรผันตามฤดูกาล ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางแม่น้ำโขงยังคงเผชิญอุปสรรคในเชิงปฏิบัติ เช่น ปริมาณบรรทุกต่อเที่ยวต่ำ และไม่สามารถรองรับการเดินเรือได้ตลอดทั้งปี
ปัจจุบัน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีน ได้เปิดมุมมองใหม่ด้านโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน ด้วยการพัฒนาเส้นทางขนส่งทางแม่น้ำ “แม่น้ำซีเจียง” ซึ่งเชื่อมโยงจากเมืองอู๋โจว สู่ท่าเรือกรุงเทพฯ โดยตรง ซึ่งไม่เพียงเปิดเส้นทางใหม่สำหรับการค้าระหว่างประเทศ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยในการกระจายสินค้าไปสู่ตลาดจีนตอนในอย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด บริษัท Guangxi Beibu Gulf International Port Group (广西北部湾国际港务集团) ได้เปิดให้บริการเส้นทางเดินเรือเส้นใหม่จากเมืองระดับอำเภอเป่ยหลิว ผ่านท่าเรือแม่น้ำชื่อสุ่ยในเมืองอู๋โจว สู่ท่าเรือกรุงเทพฯ โดยเที่ยวปฐมฤกษ์ได้บรรทุกสินค้าฉนวนใยหิน (Rock Wool) จากบริษัท Beiliu Disen New Material Co.,Ltd. สู่ประเทศไทยสำเร็จแล้ว
เส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าระหว่างประเทศลำดับที่ 8 ของบริษัทในพื้นที่เมืองอู๋โจว และเป็นเส้นทางที่ 3 ที่เปิดในปีนี้ ถัดจากเส้นทางชื่อสุ่ย–ฮ่องกง และชื่อสุ่ย–โฮจิมินห์ (เวียดนาม) นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการวางแผนก่อสร้างท่าเทียบเรือระยะที่ 3 เพิ่มอีก 8 ท่า ซึ่งจะยิ่งขยายขีดความสามารถในการรองรับปริมาณสินค้าในอนาคต
โอกาสของผู้ประกอบการไทย :
จากบทวิเคราะห์ของศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน (BIC) เส้นทางเดินเรือสายใหม่นี้ เป็นข่าวดีโดยตรงต่อภาคธุรกิจไทยที่ต้องการขยายตลาดสู่จีนตอนใน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ยังมีความต้องการสูงในจีน เช่น น้ำตาล,แป้งมันสำปะหลัง,ข้าว ถั่วเหลือง และแร่ธาตุต่างๆ
ระบบตู้คอนเทนเนอร์และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่พัฒนาแล้วในกว่างซี จะช่วยให้ผู้ส่งออกสามารถจัดการกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังสามารถ ใช้กว่างซีเป็นจุดกระจายสินค้าไปยังเมืองในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เช่น กุ้ยโจว เสฉวน หรือยูนนาน ได้อีกด้วย
ทางเลือกใหม่สู่โอกาสที่กว้างไกล :
การเปิดเส้นทางเดินเรือ “ชื่อสุ่ย–กรุงเทพฯ” เป็นตัวอย่างที่ดีของการขยายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ระหว่างจีนกับไทย โดยเฉพาะในบริบทที่โลกกำลังมุ่งสู่การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับผู้ประกอบการไทย เส้นทางนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นทางขนส่งสินค้า หากแต่เป็น “โอกาสเชิงกลยุทธ์” ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัว และขยายตลาดสู่จีนตอนในอย่างเป็นระบบ
การใช้ประโยชน์จากระบบขนส่งหลายรูปแบบของจีน โดยเฉพาะในเขตกว่างซีจ้วง ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้นจากรัฐบาลท้องถิ่น จะช่วยผลักดันการค้าระหว่างประเทศให้เติบโตไปอีกขั้น (ข้อมูล สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง)
ที่มา globthailand
วันที่ 21 กรกฏาคม 2568