แหล่งข่าววงในสองรายเผย ทีมงานของโดนัลด์ ทรัมป์ และสี จิ้นผิง หารือกันเรื่องการประชุมระหว่างสองผู้นำในช่วงที่ประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางมาเยือนเอเชียในปีนี้

 

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวสองรายว่า แม้แผนการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนยังไม่ได้ข้อสรุป แต่การหารือระหว่างทีมงานของทั้งสองฝ่ายยังรวมถึงความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะมาแวะจีนช่วงการประชุมผู้นำความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่เกาหลีใต้ หรือคุยกันนอกรอบการประชุมระหว่างวันที่ 30 ต.ค.- 1 พ.ย.

 

ในช่วงหลังทรัมป์พยายามลดความตึงเครียดกับปักกิ่ง หลังจากระงับสงครามภาษีโต้ตอบกันที่สร้างความปั่นป่วนให้กับการค้าและซัพพลายเชนโลก

 

จีนเองก็ต้องการต้อนรับแขกต่างชาติเหมือนกัน โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันแถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า วันที่ 3 ก.ย.ปักกิ่งจัดงานรำลึกครบรอบ 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 มีแขกจากสหรัฐมาร่วมงานจำนวนหนึ่งด้วย

 

ด้านทำเนียบเครมลินแถลงในวันจันทร์ (21 ก.ค.) ว่า ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินจะพบกับทรัมป์ที่กรุงปักกิ่งในเดือน ก.ย. หากทรัมป์ตัดสินใจมาร่วมงานดังกล่าวที่ปูตินยืนยันไปร่วมงานแล้ว

 

“การทูตระหว่างประมุขของรัฐมีบทบาทนำเชิงยุทธศาสตร์ในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐไม่มีอะไรมาแทนที่ได้” นายกั๋ว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ โดยไม่ได้ระบุถึงการพบกันระหว่างทรัมป์กับสี ด้านทำเนียบขาวไม่แสดงความเห็น

 

ขณะที่นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวในวันเดียวกันว่า การพูดคุยระหว่างสองประเทศจะมีขึ้น “ในอนาคตอันใกล้"

 

"การค้าเป็นไปด้วยดี ผมจึงคิดว่าตอนนี้เราควรเริ่มคุยเรื่องอื่นๆ ได้ น่าเสียดายที่จีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ซื้อน้ำมันอิหร่านและน้ำมันรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร เรายังสามารถหารือถึงประเด็นสำคัญที่ต้องแก้ไขซึ่งก็คือการปรับสมดุลครั้งใหญ่ที่จีนจำเป็นต้องทำ” เบสเซนต์กล่าวกับซีเอ็นบีซี

 

ที่ผ่านมาทรัมป์ประกาศเก็บภาษีกับสินค้าต่างประเทศแทบทุกชนิด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ แต่นักวิจารณ์สวนว่ายิ่งทำให้ชาวอเมริกันซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น

 

ทรัมป์เก็บภาษีพื้นฐาน 10% จากสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ บางประเทศเจออัตราสูงกว่านี้ เช่น จีน ถูกเก็บภาษีในอัตราสูงสุด 55% โดยมีกำหนดเส้นตายในวันที่ 12 ส.ค. ที่สหรัฐและจีนต้องทำข้อตกลงกันให้ได้

 

ส่วนความขัดแย้งอื่นๆ เช่น จีนสนับสนุนรัสเซีย, การขายสารตั้งต้นเฟนทานิล, ความกังวลเรื่องความมั่นคงในภูมิภาค และการห้ามชาวอเมริกันในจีนบางคนไม่ให้ออกนอกประเทศ

 

การพบกันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างสหรัฐกับจีนล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐพบกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ที่มาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายกล่าวว่า การประชุมถึงวิธีการเจรจาการค้าเป็นไปด้วยดีและสร้างสรรค์

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 22 กรกฏาคม 2568