รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน

 

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือ แม่โขง-ล้านช้าง (Mekong - Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 10 และร่วมการหารือกับประเทศสมาชิก ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในห้วงวันที่ 13 - 15 สิงหาคม 2568

 

รัฐมนตรีฯ จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยหัวข้อหลักของการประชุม คือ “Golden Decade: Staying Committed to Building a Better Community Through Solidarity” สะท้อนความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก MLC ซึ่งได้แก่ ไทย จีน สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม ที่กำลังจะครบรอบ 10 ปีและก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ในปีหน้า

 

ที่ประชุมจะทบทวนความก้าวหน้าของความร่วมมือภายใต้กรอบ MLC ที่ผ่านมา และหารือแนวทางการกระชับความร่วมมือในอนาคตให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในลุ่มน้ำโขงและสาธารณรัฐประชาชนจีนมากยิ่งขึ้น ขณะที่ไทยจะผลักดันความร่วมมือในการแก้ไขและรับมือกับความท้าทายร่วมที่เร่งด่วนของอนุภูมิภาค เช่น การปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และได้แสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำ MLC ครั้งที่ 5 ในช่วงปลายปีนี้

 

ปัจจุบัน ไทยเป็นประธานกรอบ MLC ร่วมกับจีนสำหรับวาระปี 2567 - 2568 กรอบ MLC เป็นข้อริเริ่มของไทยตั้งแต่ปี 2555 และมีจีนเป็นผู้ร่วมผลักดันให้ได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2559 

 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และลดความเหลื่อมล้ำด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ ผ่านความร่วมมือ 3 เสา ได้แก่ เสาการเมืองและความมั่นคง เสาเศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน และเสาสังคมและวัฒนธรรม และ 5 สาขาหลัก ได้แก่ ความเชื่อมโยง ศักยภาพในการผลิต เศรษฐกิจข้ามพรมแดน ทรัพยากรน้ำ และการเกษตรและการขจัดความยากจน ทั้งนี้ กรอบ MLC นับเป็นกรอบความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำกรอบแรกที่มีประเทศลุ่มน้ำโขงเข้าร่วมอย่างครอบคลุมทั้งประเทศต้นน้ำและปลายน้ำ

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 10 สิงหาคม 2568