สถานการณ์การท่องเที่ยวของอินเดีย
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินเดียมีอัตราส่วนร้อยละ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจากประชากรอินเดียทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับทรัพยากรการท่องเที่ยวที่อินเดียมีอยู่ แหล่งมรดกโลกของ UNESCO 43 แห่ง และอุทยานประวัติศาสตร์ 3,696 แห่ง ทำให้อินเดียต้องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวของตนออกสู่ตลาดโลก ทั้งในด้านราคาและด้าน Visibility
โดยรัฐบาลอินเดียมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ 24 ล้านคนภายในปี ค.ศ.2030 ผ่านแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำคัญสองโครงการคือ incredible india ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นเวลา 23 ปีและ Chalo อินเดียหรือคนอินเดียในต่างประเทศให้กลับมาท่องเที่ยวในอินเดียหรือให้ชักชวนเพื่อนต่างชาติมาท่องเที่ยวในอินเดีย
คาดว่าในปี 2025 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในอินเดีย 19.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2024 ที่มีจำนวน 17.7 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 และจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 43.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากจำนวน 39.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี ค.ศ.2024 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ทั้งนี้พบว่าร้อยละ 44 ของนักท่องเที่ยวเป็นผู้มาเยือนซ้ำและร้อยละ 40 เป็นผู้มาเยือนซ้ำและร้อยละ 40 เป็นผู้มาท่องเที่ยวอินเดียครั้งแรก

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวอินเดีย ยังคงเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินเดียที่ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินเดียได้รับผลกระทบไม่ร้ายแรงในช่วงการระบาดของ COVID 19
จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวอินเดียในปี ค.ศ.2024 นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางออกต่างประเทศจำนวนประมาณ 30 ล้านคนและในช่วง 2 เดือนแรกของปี ค.ศ.2025 มีชาวอินเดียออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ จำนวน 5 ล้านคน
โดยจุดหมายที่นิยมของนักท่องเที่ยวอินเดียยังคงเป็นประเทศในทวีปยุโรป เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรีย สำหรับทวีปเอเชีย ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ดูไบ อาบูดาบี ทั้งนี้ อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน ยังเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โมร็อกโก ไอซ์แลนด์และกรีนแลนด์ เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอินเดียมมากขึ้น
แม้ว่ารัฐบาลอินเดียจะเริ่มให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างไรก็ดี การส่งเสริมการท่องเที่ยวของอินเดียยังคงประสบกับปัญหาในหลายๆด้าน อาทิ
กระบวนการตรวจรับที่มีความซับซ้อน, พิธีการเข้าเมืองที่ยุ่งยากล่าช้า,การทำแแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่ขาดทิศทางและขาดความต่อเนื่อง,ภาพลักษณ์ของอินเดียในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย,ขาดการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล,ภาพลักษณ์ของอินเดียในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย,
ขาดการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาล, ระบบและเครือข่ายสาธารณูปโภคพื้นฐานในสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองรองยังคงไม่เพียงพอ, ราคาโรงแรมที่พักสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยของห้องพักในเมืองใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จาก 7,300 รูปีต่อคืนเป็น 8,100 รูปีต่อคืน ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 43 มีความเห็นว่าราคาห้องพักในศรีลังกาหรืออินโดนีเซียน่าดึงดูดใจมากกว่า
ที่มา globthailand
วันที่ 18 สิงหาคม 2568