Update! ความก้าวหน้าอุตสาหกรรมอวกาศไต้หวัน
อุตสาหกรรมอวกาศของไต้หวันมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานอวกาศไต้หวัน (Taiwan Space Agency: TASA) แจ้งว่า ไต้หวันจะปล่อยดาวเทียม FORMOSAT-8 (FS-8A) ซึ่งเป็นดาวเทียมสํารวจระยะไกลเชิงแสง (optical remote sensing satellite) ที่ไต้หวันผลิตเองเป็นดวงแรกขึ้นสู่อวกาศในเดือนตุลาคม 2568 จากฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยการผลิต FS-8A ใช้เทคโนโลยีด้านเลนส์และเซนเซอร์ที่ทันสมัยของไต้หวัน ทําให้มีความละเอียดจุดภาพ 1 เมตร สามารถบันทึกภาพถ่ายบนพื้นโลก เช่น รถยนต์ในท้องถนน เรือเดินสมุทร และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ได้ในความละเอียดขั้นสูง
TASA ยังมีโครงการส่งเสริมศักยภาพของ startups เพื่อให้บริษัทไต้หวันสามารถมีบทบาทในสายพานการผลิตดาวเทียมของโลก ในโอกาสเดียวกับที่ FS-8A จะขึ้นสู่อวกาศ TASA มีแผนจะปล่อยดาวเทียมลูกบาศก์ (CubeSat) ซึ่งเป็นดาวเทียมขนาดเล็กที่ผลิตโดยบริษัท startups ของไต้หวัน ภายใต้การสนับสนุนของ TASA อีก 3 ดวง ได้แก่
(1) ดาวเทียม Bellbird-1 ของบริษัท Tron Future Tech เพื่อให้บริการบรอดแบนด์และการส่งสัญญาณสื่อสารความเร็วสูง และมีศักยภาพในการส่งมอบสัญญาณจากดาวเทียมดวงหนึ่งไปยังอีกดวงหนึ่ง
(2) ดาวเทียม Black Kite-1 ของบริษัท Rapidtek Technologies ซึ่งเคยส่งดาวเทียม Nightjar ขึ้นสู่อวกาศ และสามารถรับส่งสัญญาณผ่านคลื่นไมโครเวฟได้อย่างเสถียร และ
(3) ดาวเทียม TORO-8U-1 จากบริษัท Pyras Technology ซึ่งมีเครื่องมือสําหรับตรวจวัดสีของมหาสมุทรและถ่ายภาพระยะไกลได้ รวมทั้งยังมีแผนจะปล่อยดาวเทียม Lilium-2 และ Lilium-3 ซึ่ง TASA ได้พัฒนาร่วมกับสถาบันการศึกษาในไต้หวันในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย
นอกจากนี้ สําหรับการพัฒนาเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทํางานของดาวเทียมและยกระดับการแข่งขันเชิงพาณิชย์ ล่าสุด บริษัท Tensor Tech ซึ่งเป็น startup ไต้หวัน ได้ประดิษฐ์ “มอเตอร์ทรงกลม” สําหรับดาวเทียมขึ้นเป็นแห่งแรกในโลก ซึ่งมอเตอร์ดังกล่าวสามารถช่วยให้ดาวเทียมควบคุมทิศทางในอากาศได้อย่างราบรื่นและลดความซ้ําซ้อนจากการใช้มอเตอร์แกนเดี่ยวหลายตัว ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานในการเดินเครื่องแล้ว ยังสามารถลดน้ําหนักของดาวเทียม และลดต้นทุนจากการขนส่งทางอวกาศได้
ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน (NSTC) กําลังเจรจาความร่วมมือกับบริษัท Amazon.com ของสหรัฐอเมริกา ภายใต้โครงการ Project Kuiper เพื่อพัฒนาเครือข่ายดาวเทียมสื่อสารวงโคจรต่ํา (LEO) ของไต้หวัน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ภาคเอกชนไต้หวันสามารถมีบทบาทในห่วงโซ่การผลิตดาวเทียมในระดับโลก ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบริษัทของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นําด้านการออกแบบดาวเทียมของโลกได้ในมิติความมั่นคง
ทั้งนี้ ไต้หวันยังให้ความสําคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างดาวเทียมด้วยสัญญาณแสง (optical inter-satellite link) เพื่อรองรับการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกลและรักษาความสามารถในการสื่อสารผ่านระบบอินเทอร์เน็ต แม้โครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตภาคพื้นดินถูกทําลายจากภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ
ปัจจุบัน การดําเนินโครงการพัฒนาด้านอวกาศของไต้หวันอยู่ในระยะที่ 3 (ปี 2562 – 2574)
โดยมีเป้าหมายในการสร้างห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบระบบจนถึง การผลิตชิ้นส่วน การปล่อยดาวเทียมที่ผลิตภายในประเทศปีละ 1 ดวง เพื่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคงและการติดตามสภาพแวดล้อม ตลอดจนการก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาจรวดในเมืองไถหนาน และขยายความร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาตลาดในด้านอวกาศระดับโลกในอนาคต
จากข้างต้น สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศของไต้หวันเป็นหมุดหมายสําคัญประการหนึ่งของประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ โดยระบุเป้าหมายให้ไต้หวันก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านห่วงโซ่อุปทานของอากาศยานไร้คนขับ (UAV) สําหรับประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก และพัฒนาดาวเทียมสื่อสารยุคใหม่สําหรับวงโคจรระดับกลางและต่ํา เพื่อนําอุตสาหกรรมอวกาศและการบินอวกาศของไต้หวันเข้าสู่เวทีนานาชาติอย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ การพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศของไต้หวันมีความสําคัญอย่างยิ่งในมิติความมั่นคง เพื่อให้ไต้หวันสามารถพึ่งพาตนเองในการรับมือกับภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งการมีเทคโนโลยีด้านอวกาศที่ทันสมัยยังเป็นเครื่องมือต่อรองในการสร้างบทบาทของไต้หวันในเวทีระหว่างประเทศและสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศพันธมิตร นอกเหนือจากความก้าวหน้าเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ (Silicon Shield) ที่ไต้หวันมีศักยภาพควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนานวัตกรรมและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงในระดับโลก
ในส่วนของประเทศไทย ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) กับ TASA ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการสอบเทียบข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมระหว่างดาวเทียม THEOS ของไทย และ FORMOSAT ของไต้หวันกันอย่างต่อเนื่อง มีการร่วมวิจัยและพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายดาวเทียม
ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการนํากฎหมายและนโยบายด้านอวกาศไปใช้และปฏิบัติอย่างจริงจัง กอปรกับในปัจจุบัน ไทยกับไต้หวันยังอยู่ในระหว่างการจัดทําเอกสารความร่วมมือ (MOU) ด้านอวกาศ มุ่งเน้นขับเคลื่อนความร่วมมือที่มีศักยภาพ เช่น การแบ่งปันข้อมูล และการพัฒนาดาวเทียมร่วมกัน
ทั้งนี้ การจัดทํา MOU ดังกล่าวน่าจะเป็นโอกาสสําหรับไทยในการส่งเสริมความร่วมมือและการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอวกาศเชิงพาณิชย์จากไต้หวัน อาทิ ดาวเทียมขนาดเล็กและโดรน เพื่อยกระดับโครงสร้างทางอุตสาหกรรมและต่อยอดนวัตกรรมของไทยในอนาคต (ข้อมูล: สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย, เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)
ที่มา globthailand
วันที่ 19 สิงหาคม 2568