จับตากวางตุ้ง! เศรษฐกิจอันดับ 1 ของจีน กับการเติบโตที่ต่ำกว่าเป้าหมายในไตรมาสแรก
ไตรมาสแรกของปี 2568 มณฑลกวางตุ้งยังคงเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในจีน ด้วยมูลค่า 3.35 ล้านล้านหยวน (465,313 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10.5 ของ GDP ทั้งหมดของจีน อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 5 ภาคอุตสาหกรรมบริการมีการขยายตัวสูงสุดที่ร้อยละ 4.3 ตามด้วยภาคอุตสาหกรรมเกษตรที่ร้อยละ 3.7 และภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ร้อยละ 3.3
ในด้านการค้าระหว่างประเทศ มณฑลกวางตุ้งมีมูลค่าการค้า 2.13 ล้านล้านหยวน (296,836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 และคิดเป็นร้อยละ 20.8 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของจีน การส่งออกมีมูลค่า 1.34 ล้านล้านหยวน (186,063 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขยายตัวร้อยละ 1.4 ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 798,150 ล้านล้านหยวน (110,645 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 อาเซียนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง โดยมีมูลค่าการค้า 344,430 ล้านหยวน (48,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9
สำหรับประเทศไทย มูลค่าการค้ากับมณฑลกวางตุ้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.1 อยู่ที่ 60,925 ล้านหยวน (8,445 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มณฑลกวางตุ้งนำเข้าสินค้าจากไทยมูลค่า 26,170 ล้านหยวน (3,643 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และผลไม้ ในขณะที่การส่งออกไปไทยมีมูลค่า 34,752 ล้านหยวน (4,837 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขยายตัวร้อยละ 25.7 สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และยานยนต์

การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของมณฑลกวางตุ้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 อย่างไรก็ตาม การลงทุนและยอดจำหน่ายในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงหดตัว ขณะที่ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของมณฑลกวางตุ้งลดลงร้อยละ 0.4 และดัชนีราคาผู้ผลิตอุตสาหกรรม (PPI) ลดลงร้อยละ 0.1 ซึ่งยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2567
ทั้งนี้สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจวตั้งข้อสังเกตว่า แม้ GDP จะมีมูลค่าสูงสุด แต่การขยายตัวของมณฑลกวางตุ้งกลับต่ำที่สุดในกลุ่มมณฑล 5 อันดับแรกของจีนที่มี GDP สูงสุด โดยอัตราการขยายตัวของมณฑลอื่น ๆ เช่น มณฑลเจียงซู (ร้อยละ 5.9) มณฑลเจ้อเจียง (ร้อยละ 6) และมณฑลเสฉวน (ร้อยละ 5.5) สูงกว่า
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคงมองว่ามณฑลกวางตุ้งเป็น “economic powerhouse” และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมณฑลนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโดยรวมของจีน รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งคาดว่าจะมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 (ข้อมูล สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว)
ที่มา globthailand
วันที่ 29 สิงหาคม 2568