KEY POINTS :

 

* เสนอให้รื้อฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร SME

* เสนอมาตรการทางภาษีให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถนำใบกำกับภาษีจากร้านอาหารมาใช้ลดหย่อนภาษีได้

* เสนอให้มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 2.5% โดยมี บสย. ค้ำประกัน เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SME

 

ในช่วง 4 เดือนแรกของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ความท้าทายสำคัญที่ต้องเผชิญคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยที่ยังบอบช้ำจากปัญหาหลายมิติ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจระดับรากหญ้าและ SMEs ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 

 

การดำเนินมาตรการที่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายและลดค่าครองชีพในระยะสั้นถือเป็นเป้าหมายหลักที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงมากกว่านี้

 

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทยได้กล่าวถึงสถานการณ์ของผู้ประกอบการ SME ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในสภาวะบอบช้ำ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านอาหารรายย่อยที่ต้องเผชิญกับภาระหนักจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและดอกเบี้ยจากเงินกู้ในช่วงวิกฤตโควิด แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามสร้างมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือ แต่ยังคงมีความต้องการมาตรการที่เร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบในระยะสั้น

 

ในเรื่องนี้ นายสรเทพได้เสนอแนะว่า โครงการ “คนละครึ่ง” ควรกลับมาใช้ใหม่เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนและพ่อค้าแม่ขาย SME ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการเดิมได้ โดยเฉพาะร้านอาหารที่เสียภาษีมาโดยตลอด ซึ่งหากสามารถเข้าร่วมโครงการได้ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและส่งเสริมให้เศรษฐกิจภาครากหญ้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

นอกจากนี้ ชมรมผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลช่วยเหลือ SME ร้านอาหารผ่านมาตรการภาษี โดยการให้บุคคลธรรมดาสามารถใช้ใบกำกับภาษีจากร้านอาหารเพื่อลดหย่อนภาษีได้ในปี 2570 ไม่เกิน 20,000 บาท และให้นิติบุคคลสามารถใช้ใบกำกับภาษีจากการจัดงานเลี้ยงหรือประชุมต่างๆ เพื่อลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 2 แสนบาท

 

ซึ่งมาตรการนี้จะไม่ต้องใช้งบประมาณจากรัฐแต่สามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ทันที

 

อีกหนึ่งข้อเสนอที่สำคัญคือการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่เกิน 2.5% เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในการเพิ่มกระแสเงินสดในระบบธุรกิจ โดยการค้ำประกันจาก บสย. ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินให้กับธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาด้านกระแสเงินสด และสามารถใช้เงินนี้ในการขยายกิจการหรือจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ

 

สำหรับการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว นายสรเทพยังได้เสนอแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ด้วยการแจกเงินช้อปปิ้งผ่านแอปพลิเคชั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย และทำแคมเปญบินฟรีภายในประเทศเมื่อบินสายการบินไทยไปยังเมืองรอง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศและส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น

 

ในด้านการควบคุมค่าครองชีพ นายสรเทพได้เรียกร้องให้รัฐมนตรีพาณิชย์เร่งควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ซึ่งราคาของสินค้าเกษตรบางรายการที่ลดลงจากฟาร์มกลับยังสูงเมื่อถึงมือผู้บริโภค นอกจากนี้ยังต้องการให้รัฐมนตรีพลังงานออกมาตรการควบคุมราคาค่าไฟฟ้าและน้ำมัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้น GDP ของประเทศและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 10 กันยายน 2568