อินเดียผวา อะมีบากินสมอง ระบาด ตายแล้ว 19 ราย เผยอาการ-ที่มาของเชื้อ
อะมีบากินสมอง – เมื่อวันที่ 18 กันยายน รอยเตอร์ รายงานว่า จำนวนผู้ป่วย โรคสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบากินสมอง กำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่รัฐเกรละ ประเทศอินเดีย ล่าสุด มีผู้ป่วยแล้ว 69 คน และมีผู้เสียชีวิตถึง 19 ราย ในปีนี้ ในจำนวนนี้ 3 ราย เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
อะมีบา ซึ่งจัดเป็นปรสิตเซลล์เดียวดังกล่าว คือ Naegleria fowleri (อ่านว่า นีเกลอเรีย ฟาวเลอรี) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า อะมีบากินสมอง อาศัยอยู่ในน้ำจืดตามธรรมชาติที่ไม่สะอาด ชอบน้ำอุ่น เข้าสู่ร่างกายผ่านน้ำที่เข้าทางโพรงจมูก มีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก พบได้ยากในไทย
ก่อให้เกิด โรคไข้สมองอักเสบแบบปฐมภูมิ (PAM) ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ต่ำๆ ไปจนถึงไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง คลื่นไส้ อาเจียน ตามมาด้วยอาการสับสน ซึม ชัก อัมพาต โคม่า และเสียชีวิตในที่สุด ปัจจุบัน ยังไม่มียารักษาจำเพาะต่ออะมีบาชนิดนี้
สำนักงานสาธารณสุขของรัฐเกรละ ระบุว่า สถานการณ์ในปีนี้นั้นต่างจากปีก่อนหน้า เพราะผู้ป่วยที่พบนั้นได้รับเชื้อมาจากแหล่งน้ำที่แตกต่างสถานที่กันไปและไม่ได้เชื่อมโยงกับแหล่งน้ำที่เป็นต้นกำเนิดปัญหาแหล่งเดียวเหมือนกันปีก่อน ทำให้การสืบสวนหาแหล่งเชื้อยากลำบาก
รายงานระบุว่า อินเดียพบผู้ป่วย PAM ทั่วประเทศเพียง 36 คน ในจำนวนนี้ เสียชีวิต 9 ราย ตลอดทั้งปี 2567 จึงเห็นได้ชัดเจนว่าตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล
ด้านรัฐบาลกลางของอินเดียอยู่ระหว่างการทำความสะอาดแหล่งน้ำที่ใช้อุปโภค-บริโภคด้วยสารคลอรีน โดยเฉพาะตามแหล่งน้ำที่ชาวอินเดียมักนิยมลงไปอาบน้ำชำระร่างกาย
ทั้งนี้ อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย PAM ทั่วโลกอยู่ที่เพียงร้อยละ 3 อย่างไรก็ตาม รัฐเกรละที่เผชิญกับโรคนี้บ่อยครั้งทำให้มีการตรวจวินิจฉัยและการทดสอบทางห้องปฏิบัติการที่ก้าวหน้าและจำเพาะ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตเพิ่มเป็นร้อยละ 24
“ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของแหล่งน้ำเหมาะต่อการอยู่อาศัยของอะมีบาชนิดนี้มากขึ้น และยิ่งทำให้มนุษย์ต้องการใช้น้ำมากขึ้น จึงเพิ่มโอกาสที่มนุษย์จะเผชิญกับอะมีบาชนิดนี้มากขึ้นไปด้วย” เอกสารของสาธารณสุขอินเดียระบุ
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 18 กันยายน 2568