"เอไอ ดิสรัปชัน-เศรษฐกิจ-การเมือง" ป่วน กดดัชนีเชื่อมั่นดิจิทัลไทยดิ่งต่อเนื่อง
KEY POINTS :
* ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลไตรมาส 3/2568 ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 46.9 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ 50 สะท้อนถึงมุมมอง "ไม่เชื่อมั่น"
* ปัจจัยหลักที่กดดันความเชื่อมั่นมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความไม่แน่นอนทางการเมือง ผลกระทบจาก AI Disruption และการขาดแคลนบุคลากรดิจิทัล
* ใน 5 อุตสาหกรรมย่อย มีเพียง "ซอฟต์แวร์" ที่ยังมีความเชื่อมั่นเกินเกณฑ์ ในขณะที่ฮาร์ดแวร์ บริการดิจิทัล ดิจิทัลคอนเทนต์ และโทรคมนาคมล้วนอยู่ในภาวะไม่เชื่อมั่น
* ภาครัฐและดีป้าพยายามแก้ปัญหาโดยการเปิดตัวแผนพัฒนาบุคลากรดิจิทัล และออกมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านดิจิทัล
* แม้ความเชื่อมั่นจะลดลง แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลปี 2567 ยังเติบโตแข็งแกร่ง และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมี AI เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ไตรมาส 3/2568 พบว่า ดัชนีลดลงต่อเนื่อง อยู่ที่ 46.9 ต่ำกว่าเกณฑ์ 50 สะท้อนมุมมอง “ไม่เชื่อมั่น” ต่อภาวะธุรกิจ สาเหตุจากเศรษฐกิจชะลอ ความไม่แน่นอนการเมือง การขาดแคลนบุคลากรดิจิทัล ผลกระทบ AI Disruption และข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้บริโภค
ปัจจัยบวกที่ช่วยประคอง ได้แก่ มาตรการตรึงราคาพลังงาน การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัว และผลสรุปเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งช่วยสร้างภาพเชิงบวกบางส่วน
อุตฯ ซอฟต์แวร์พยุงภาพรวม :
ผลสำรวจ 5 อุตสาหกรรมย่อย มีเพียงซอฟต์แวร์ที่ดัชนีเกิน 50 อยู่ที่ 52.7 สะท้อนความต้องการโซลูชันองค์กรที่ยังสูง ส่วนฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะอยู่ที่ 39.0 บริการดิจิทัล 48.1 ดิจิทัลคอนเทนต์ 46.8 และโทรคมนาคม 46.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/68 พบว่าโทรคมนาคมร่วงจาก 51.8 เหลือต่ำกว่า 50 ชี้แรงกดดันรุนแรง
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ระบุว่า เศรษฐกิจซบจากท่องเที่ยวหดตัวและหนี้ครัวเรือนสูง กระทบกำลังซื้อและการลงทุนเอกชน ขณะเดียวกันไทยเสียเปรียบในการดึงดูดการลงทุนในภูมิภาค อีกทั้งการขาดแรงงานด้านปัญญาประดิษฐ์ AI และไซเบอร์ซีเคียวริตี้ยังเป็นปัญหาใหญ่
“แม้รัฐบาลมีมาตรการตรึงพลังงานและดันส่งออก แต่หากการเมืองและข้อพิพาทชายแดนยืดเยื้อ ย่อมบั่นทอนการลงทุนระยะยาว” เขากล่าว
เร่งโรดแมปปั้นบุคลากรไอที :
ดีป้าเปิดตัว Digital Skill Roadmap ตั้งเป้าพัฒนาคนไทยด้านดิจิทัลกว่า 1 ล้านคนต่อปี ครอบคลุม 3 ระดับ ตั้งแต่ทักษะพื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ พร้อมเสนอสิทธิ์หักค่าใช้จ่ายอบรมสูงสุด 250% และลดหย่อนภาษีเงินเดือนไอทีสกิล 150%
ขณะที่ภาครัฐยังมีมาตรการหักค่าใช้จ่าย 2 เท่า สำหรับ SME ที่ลงทุนด้านดิจิทัล วงเงินสูงสุด 300,000 บาทต่อราย ถึงสิ้นปี 2570 อีกทั้ง สสว.เตรียมงบ 1,000 ล้านบาทหนุน e-Commerce และ Live Commerce ให้แต้มต่อจัดซื้อจัดจ้างรัฐ 10–15% และวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2,700 ล้านบาท
ธุรกิจรอเสถียรภาพนโยบาย :
ผู้ประกอบการเรียกร้องรัฐเร่งแก้ปัญหาทุนและบุคลากรคุณภาพ พร้อมเดินหน้ายุทธศาสตร์ระยะยาวด้านดิจิทัลเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือน หากไทยไม่เร่งพัฒนาคนและวางนโยบายต่อเนื่อง ความสามารถแข่งขันอาจถดถอยท่ามกลางแรงกดดันจาก AI และภูมิภาค
ด้านการประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมดิจิทัลปี 2567 ดีป้าและสถาบันไอเอ็มซี พบว่าเติบโตแข็งแกร่ง 23.35% มีมูลค่า 2.496 ล้านล้านบาท โดยฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะโตสูงสุด 26.62% ขณะที่ซอฟต์แวร์ยังมีมูลค่าสูงถึง 233,386 ล้านบาท
คาดการณ์แนวโน้ม 3 ปีข้างหน้า พบว่าอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยเติบโตแข็งแกร่ง 23.35% มีมูลค่ารวม 2.496 ล้านล้านบาท โดยอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะขยายตัวสูงสุดถึง 26.62%
ทั้งนี้ ได้ประเมินครอบคลุม 4 อุตสาหกรรมหลัก
1)ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ มูลค่า 1.845 ล้านล้านบาท โต 26.62%
2)บริการดิจิทัล มูลค่า 367,738 ล้านบาท โต 19.54%
3)ดิจิทัลคอนเทนต์ มูลค่า 50,609 ล้านบาท โต 14.41%
4)ซอฟต์แวร์ มูลค่า 233,386 ล้านบาท โต 8.46%
ด้านบุคลากรดิจิทัลยังคงเติบโต โดยซอฟต์แวร์มีแรงงานเพิ่มขึ้น 23.77% เป็น 175,254 คน ส่วนบริการดิจิทัลเพิ่มเป็น 86,177 คน โต 6.23% ขณะที่ฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะมีบุคลากร 305,875 คน ลดลงเล็กน้อย 5.05% จากการนำระบบอัตโนมัติมาใช้มากขึ้น
สำหรับแนวโน้มปี 2568–2570 คาดว่า บริการดิจิทัล จะโตสูงสุดเฉลี่ย 10–14% ต่อปี ตามด้วยฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะโต 6–7% ขณะที่ซอฟต์แวร์คาดโต 4–6% และดิจิทัลคอนเทนต์โต 1–5%
ทั้งนี้ ปี 2570 คาดว่ามูลค่ารวมทั้ง 4 อุตสาหกรรมจะแตะระดับเฉลี่ย 3 ล้านล้านบาท โดยมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI เป็นแรงขับสำคัญ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 19 กันยายน 2568