สถาบันทรัพยากรโลก World Resources Institute รายงานว่า แม้ว่าบริษัทสตาร์ทอัพและนักวิจัยหลายรายมุ่งเน้นการพัฒนาเนื้อสัตว์จากพืชให้มีคุณภาพและราคาที่แข่งขันกันได้ แต่ก็มีอีกแนวทางหนึ่งที่เริ่มได้รับความสนใจ คือ “การผสานโปรตีนจากพืชเข้ากับเนื้อสัตว์จริง” 

 

เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเป็นการผสมเนื้อสัตว์กับโปรตีนทางเลือกคุณภาพสูง เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา หรือโปรตีนจากเชื้อราเพื่อลดสัดส่วนของเนื้อสัตว์ในผลิตภัณฑ์โดยรวม การนำโปรตีนทางเลือกมาเสริมในห่วงโซ่อุปทานเนื้อสัตว์แบบเดิม อาจช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ ลดความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน และส่งเสริมสุขภาพทั้งในระดับบุคคลและวงกว้าง โดยมีผลการทดสอบรสชาติซึ่งได้ผลว่า เนื้อผสมได้รับการตอบรับเชิงบวกจากผู้บริโภคจำนวนมาก และในบางรายยังให้คะแนนมากกว่าเนื้อสัตว์แบบดั้งเดิมที่ผู้บริโภครู้จักและชื่นชอบ

       

สถาบัน Good Food Institute Asia Pacific กำลังร่วมวิจัยพัฒนากับนักวิทยาศาสตร์ในสิงคโปร์เพื่อทำให้เนื้อผสมกลายเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นในสายตาผู้บริโภค หากผลิตภัณฑ์เนื้อผสมนี้ประสบความสำเร็จในตลาด อาจทำให้เป็นก้าวสำคัญในการตอบโจทย์ที่โปรตีนจากพืชที่ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ ซึ่งได้แก่การรองรับความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นด้วยทางเลือกที่ยั่งยืน เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค พร้อมมอบทางเลือกใหม่ที่มีคุณค่าแก่สุขภาพของผู้บริโภคได้มากขึ้น

       

การที่สิงคโปร์เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มโปรตีนทางเลือก เช่น เนื้อสัตว์จากพืช เนื้อเพาะเลี้ยง จากการพึ่งพาการนำเข้าอาหารมากกว่าร้อยละ 90 รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้กำหนดนโยบาย  “30×30” เพื่อเพิ่มการผลิตอาหารในประเทศ ส่งผลให้ตลาดอาหารแห่งอนาคตในสิงคโปร์มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นตลาดที่ศักยภาพสูงสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้

       

โดยโอกาสของผู้ประกอบการไทยมีโอกาสขยายเข้าสู่สิงคโปร์ โดยเฉพาะกลุ่มโปรตีนทางเลือกและนวัตกรรมอาหาร ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านคุณภาพ รสชาติ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม หรือการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เช่น งาน FHA – Food & Beverange Asia ซึ่งเป็นเวทีระดับภูมิภาค จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างเครือข่ายธุรกิจ แนะนำผลิตภัณฑ์สู่ผู้จัดจำหน่ายและผู้บริโภคในสิงคโปร์ ตลอดจนขยายตลาดสู่ระดับโลกได้ (ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์, เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 1 ตุลาคม 2568