อินเดียปฏิรูป GST 2.0 ลดภาษีเพิ่มกำลังซื้อ กระทบเศรษฐกิจและการค้าไทย
รัฐบาลอินเดียได้เริ่มใช้การปฏิรูปภาษีสินค้าและบริการครั้งใหญ่ หรือ "GST 2.0" ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2568 นับเป็นการปรับโครงสร้างภาษีครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 โดยปรับเหลือเพียง 2 อัตราหลักคือ 5% และ 18% พร้อมเก็บภาษีหรูหราพิเศษ 40% สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น บุหรี่ น้ำอัดลม รถหรู และเครื่องบินส่วนตัว รวมถึงยกเลิกการจัดเก็บภาษีชดเชยพิเศษ (compensation cess) ยกเว้นสินค้ายาสูบ ทั้งยังปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ เช่น การคืนภาษีที่รวดเร็วขึ้น และลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ MSMEs
มาตรการนี้ส่งผลให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น วัสดุก่อสร้าง ยานยนต์ อุปกรณ์การเกษตร บริการโรงแรมและสุขภาพ ตลอดจนตำราเรียนและเวชภัณฑ์ ได้รับการปรับลดภาษีหรือยกเว้น ทำให้ค่าครองชีพถูกลงและเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที ระบุว่าการปฏิรูปครั้งนี้เป็น “ของขวัญเทศกาลดิวาลี” ต่อเกษตรกร ชนชั้นกลาง เยาวชน และสตรี อย่างไรก็ดี รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งกังวลต่อการสูญเสียรายได้ 8,000–10,000 ล้านรูปีต่อปี อันอาจกระทบต่อการลงทุนด้านสาธารณสุขและการศึกษา
สำหรับไทย อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องอุปโภคบริโภค และวัสดุก่อสร้างมีโอกาสได้รับประโยชน์จากต้นทุนการผลิตในอินเดียที่ลดลงและตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น แต่ผู้ส่งออกยังคงต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคาสูงและมาตรการกีดกันที่มิใช่ภาษีของอินเดีย จึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่มา globthailand
วันที่ 7 ตุลาคม 2568