"เศรษฐกิจไทย" ส่งท้ายปี
เศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมๆ ของปี 2565 ไม่ได้มีความหวือหวา หรือฟื้นตัวอย่างเต็มที่นัก ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย การใช้ชีวิต
เริ่มนับถอยหลัง เข้าสู่ปีใหม่อีกไม่กี่วันข้างหน้า เศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมๆ ของปี 2565 ไม่ได้มีความหวือหวา หรือฟื้นตัวอย่างเต็มที่นัก ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่คลี่คลาย การใช้ชีวิต การทำกิจกรรมกลับมาสู่ภาวะปกติ อีเวนต์ งานคอนเสิร์ต กิจกรรมต่างๆ งานเค้าท์ดาวน์ที่กำลังจะจัดขึ้นในทุกพื้นที่ประเทศไทย เชื่อว่า จะสร้างบรรยากาศที่คึกคักขึ้น หนุนการจับจ่ายช่วงใกล้สิ้นปี บริษัทต่างๆ ทยอยประกาศจ่ายโบนัส เงินพิเศษ เว้นบางบริษัทที่ยังขาดทุนก็อาจไม่มี
หลายคนเชื่อว่า หลังระบาดใหญ่ของโควิด นี่คือห้วงเวลาที่ผู้คนต่างตื่นเต้นที่จะเริ่มต้นเดินทางอีกครั้ง มีความเคลื่อนไหวในกิจกรรมต่างๆ ตามปกติมากขึ้น แน่นอนว่า ย่อมส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ สินค้าและบริการ บรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปีนี้จะเป็นปีแรกที่การส่งความสุขจัดได้อย่างเต็มรูปแบบ ผู้บริหารห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในประเทศ ต่างประเมินว่า กำลังซื้อจะมีเพิ่มขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีได้ไม่น้อย
ปี 2565 ต้องบอกว่า เป็นปีแห่งความผันผวนอย่างมากทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเงิน และสังคม หนึ่งในหลายประเด็นที่เป็นต้นเหตุ คือ ผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้ง ที่ก่อให้เกิดการกีดกันทางการค้า การแทรกแซงค่าเงิน ชัพพลายเชนกระทบ การขาดแคลนวัสดุต่างๆ ที่มีผลต่อการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ชะงัก ความผันผวนดังกล่าวยังส่งผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ ราคาสินค้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจตกต่ำ ซ้ำด้วยสถานการณ์ที่ควบคุมได้ยาก เช่น ศึกสงครามที่ส่งผลต่อราคาพลังงาน
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเทรนด์ใหญ่ และกำลังส่งผลกระทบต่อทั้งโลก คือ ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ที่กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกปี รวมถึงในบ้านเราที่อุทกภัยปีนี้รุนแรงเป็นพิเศษ หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าในอดีตหลายทศวรรษ นี่เป็นการส่งสัญญาณว่า โลกกำลังป่วยหนัก หลายพื้นที่ขาดแคลนอาหาร เพราะพื้นที่ทางการเกษตรที่เสียหายจากน้ำท่วม รวมไปถึงภัยแล้งที่มีแต่จะรุนแรง ผลกระทบจะกระจายเป็นวงกว้างขึ้น
ขณะที่ เศรษฐกิจไทย เมื่อฟังจากผู้บริหารนโยบายประเทศ ก็มักจะออกมาบอกว่า เศรษฐกิจไทยยังไม่มีอะไรน่าวิตก แต่หากเดินไปถามผู้คนที่หาเช้ากินค่ำ ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ จะได้รับคำตอบว่า เศรษฐกิจไม่ดีเอาเสียเลย ข้าวของแพง เงินในกระเป๋ามีมูลค่าน้อยลง ยิ่งปีหน้าหากความผันผวนเหล่านี้ยังอยู่ และรัฐบาลไม่อยู่ในสภาพที่แข็งแรงมากพอ หรือมีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นหมัดเด็ดสู้กับความผันผวนที่เกิดขึ้น เศรษฐกิจปีหน้าคงอยู่ในภาวะ “เผาจริง” อย่างแน่นอน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 20 ธันวาคม 2565