ธุรกิจท่องเที่ยวปรับแผนทั้งประเทศรับจีน โรงแรมฟื้น-แอร์ไลน์เพิ่มไฟลต์
ธุรกิจท่องเที่ยวรับข่าวดีจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. 66 เร็วกว่าคาด ดันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน ผู้ว่าฯ ททท.ชี้ปัจจัยบวกอุตฯท่องเที่ยวไทยและทั่วโลก นัดประชุมด่วนเอกชน-สธ. วางมาตรการตั้งรับ เผยต้องทำใจช่วงแรกตั๋วบินราคาพุ่งกระฉูด คาดทยอยเข้ามาช่วงตรุษจีน “แอร์เอเชีย” เตรียมฝูงบิน 10 ลำ รับนักท่องเที่ยวจีน สมาคมโรงแรมชี้ “จีน” ตัวแปรสำคัญหนุนผู้ประกอบการฟื้นทุกระดับ กลุ่มดุสิตธานีปลุกความร่วมมือรัฐ-เอกชน อสังหาฯลุ้นกลางปีกำลังซื้อลูกค้าจีนไหลกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 ธันวาคม 2565 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป จากเดิมที่ต้องมีการกักตัว 8 วัน (5 วันที่โรงแรม และ 3 วันที่บ้าน) มาใช้วิธีตรวจ PCR ที่เป็นลบภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่อง ทั้งระบุว่าจะฟื้นการท่องเที่ยวออกนอกประเทศให้พลเรือนจีน ตามระเบียบกฎเกณฑ์ต่อไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิดโดยรวมของโลก และศักยภาพการบริการหลายๆ ด้าน
ปัจจัยบวกไทยและทั่วโลก :
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการเปิดประเทศของรัฐบาลจีนที่ประกาศออกมานั้นถือว่าเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และถือว่าเป็นการผ่อนคลายมาตรการระดับประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากที่ใช้มาตรการคุมเข้ม หรือ Zero COVID มานานเกือบ 3 ปีเต็ม
ทั้งนี้ เดิม ททท.คาดการณ์ว่า จีนน่าจะมีนโยบายเปิดประเทศที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 1 และจะเห็นภาพการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงต้นไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนตารางฤดูร้อน ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้
โดยแนวทางดังกล่าวนี้นับว่าเป็นปัจจับบวกอย่างมากสำหรับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ประกอบการในฝ่ายซัพพลายไซด์ให้กลับมาทำธุรกิจกันมากขึ้น รวมทั้งน่าจะทำให้มีแรงงานท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ระบบมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
“เราประเมินว่าการผ่อนคลายมาตรการของจีนที่เร็วขึ้นนี้ จะทำให้ภาพรวมในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเติมอีกประมาณ 5 ล้านคน จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 20 ล้านคน” นายยุทธศักดิ์กล่าว
ประชุมด่วนเอกชน-สธ. :
นายยุทธศักดิ์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน ททท.ทั้ง 5 แห่งในจีน มอนิเตอร์สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวางแผนทำการตลาดมาเป็นระยะ รวมถึงร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ OTA ของจีน ทำการขายล่วงหน้ารอเปิดประเทศไปบ้างแล้ว และพบว่าความต้องการเดินทางมาไทยยังมีสูง จึงเชื่อว่าทันทีที่คนจีนออกนอกประเทศได้ ไทยจะเป็นหนึ่งเดสติเนชั่นสำคัญแน่นอน
แต่ประเด็นสำคัญขณะนี้คือ ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดค่อนข้างรุนแรงในประเทศจีน จะทำให้คนไทยปลอดภัยหรือไม่ หากมีคนจีนเข้ามาท่องเที่ยว เนื่องจากหลักการเปิดประเทศของไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังต้องให้อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของคนไทย
“เราไม่กังวลเรื่องดีมานด์และเรื่องซัพพลายในการรองรับนักท่องเที่ยวจีน แต่เป็นห่วงว่าถ้าจีนเปิดประเทศแล้วทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้นในประเทศไทย เราจะทำอย่างไร ประเด็นนี้เราต้องเตรียมพร้อมตั้งรับ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวและกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นหน่วยงานควบคุมโรค ในวันที่ 28 ธันวาคม 2565” นายยุทธศักดิ์กล่าว
ทำใจ “ตั๋วบินแพง” แน่นอน :
ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้เดินทางในช่วงตั้งแต่ 8 ม.ค.-31 มี.ค. 66 คงต้องทำใจรับราคาบัตรโดยสารสายการบินที่ต้องเพิ่มสูงขึ้น ตามหลักดีมานด์-ซัพพลาย เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงของตารางบินฤดูหนาว (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566) ซึ่งกำหนดออกไปแล้ว
“ทำให้ตอนนี้จะมีเพียงที่นั่งสายการบินที่ให้บริการอยู่แล้ว เมื่อจีนยกเลิกการกักตัว ที่นั่งสายการบินที่มีอยู่น่าจะขายเต็มทุกเที่ยวบิน ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินแพงขึ้นแน่นอน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนที่เดินทางในช่วงนี้จะเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นและมีกำลังซื้อสูง ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปยังเร็วเกินไปที่จะสรุปในเวลานี้” นายยุทธศักดิ์กล่าว
คาดจีนทยอยเข้าตั้งแต่ตรุษจีน :
ขณะที่นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการเปิดประเทศของจีนที่ออกมายังระบุเพียงว่า จีนมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังไม่ได้เปิดให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยว ยกเว้นกลุ่มนักเรียน นักธุรกิจ กลุ่มเดินทางเพื่อเยี่ยมญาติ รวมถึงกลุ่มรักษาพยาบาล
อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวถือเป็นแนวโน้มที่ดีว่าทางการจีนจะทยอยผ่อนคลายมาตรการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งกลับสู่ภาวะปกติต่อไป
“เปิดประเทศของจีนแบบ step by step แบบนี้เป็นสิ่งที่เราอ่านเกมอยู่แล้ว ทั้งส่งสัญญาณไปยังผู้ประกอบการภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คาดหวังว่าจีนจะเปิดให้คนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยวได้ในช่วงตรุษจีน (22 มกราคม 2566)” นายธเนศวร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าจะเริ่มเห็นภาพการเดินทางออกนอกประเทศของคนจีนบางกลุ่มในช่วงตรุษจีน 2566 และชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 2 โดยคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 จะกลับมาได้ประมาณ 5-6 ล้านคน
ทั้งนี้ ในปี 2562 ก่อนการระบาดโควิด-19 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสัดส่วน 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด
แอร์เอเชียเพิ่มฝูงบิน 10 ลำ :
นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแอร์เอเชีย บอกว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่สายการบินต้องเอาตัวรอด และปี 2565 ถึงต้นปี 2566 จะเป็นช่วงที่ฟื้นฟูให้กลับมาอีกครั้ง และเชื่อว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ทั้งนี้ หากตลาดจีนเปิดก็จะเป็นการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารครั้งใหญ่แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกครั้ง
สอดคล้องกับ นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) และสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การเปิดประเทศของจีนคือตัวเเปรสำคัญในการฟื้นตัวของภาคการบิน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย คาดว่าภายในไตรมาส 1/66 จีนจะมีการพิจารณานโยบายจำกัดโควตาเที่ยวบินเข้าประเทศ
นายสันติสุขกล่าวว่า ปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชียทำการบินประมาณ 1,000 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ใช้เครื่องบินปฏิบัติการ 43 ลำ จากฝูงบินทั้งหมด 53 ลำ มีเครื่องบินสำรองอยู่ 10 ลำ ที่ยังไม่ได้กลับมาให้บริการ ทำให้มีเครื่องบินเพียงพอต่อการขยายเส้นทาง เพิ่มความถี่ รวมถึงพร้อมรองรับการเปิดประเทศของจีน
ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียทำการบินเส้นทางประเทศจีน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คือ เส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-เสิ่นเจิ้น และกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-หางโจว ซึ่งเป็นเหมือนการอุ่นเครื่องของรัฐบาลจีน เพื่อศึกษาทิศทางการเปิดประเทศ
ล่าสุดแหล่งข่าวจากสายการบินไทยแอร์เอเชียกล่าวว่า การเปิดบินเส้นทางประเทศจีน จะเป็นการทยอยเปิดเส้นทางบินเดิม ที่สายการบินเคยให้บริการอยู่ก่อนหน้า ซึ่งต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการ ข้อกำหนดจากทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) อีกครั้ง
เวียตเจ็ทเพิ่มเส้นทางบินจีน :
เช่นเดียวกับ นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ปัจจัยบวกธุรกิจการบินในปี 2566 คือการเปิดประเทศของจีน ซึ่งคาดว่าการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ จะชัดเจนขึ้นในไตรมาสที่ 2/2566
ขณะที่นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หากทางการจีนอนุญาตให้ทำการบินแล้ว สายการบินมีแผนทำการบินสู่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน และเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงก่อน เนื่องจากมีการพูดคุยกับหุ้นส่วนทางธุรกิจไว้บ้างแล้ว จากนั้นจึงจะขยายเส้นทางบินไปยังเมืองอื่น ๆ ต่อไป
แนะบาลานซ์พอร์ตกระจายเสี่ยง :
ด้านนายพาที สารสิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า เมื่อจีนขยับ โลกต้องจับตามอง การประกาศผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขของจีนครั้งนี้ มีความหมายอย่างยิ่งต่อภาคการท่องเที่ยวไทย ประเด็นที่น่าติดตามคือหลังจากนี้ ผู้ประกอบการจะวางกลยุทธ์ดึงดูดหรือรับมือตลาดจีนเช่นไร
“ก่อนการระบาดของโควิด-19 สายการบินในประเทศไทยพึ่งพาตลาดการบินจีนมากเกินไป แต่ละสายการบินต่างขยายฝูงบินของตัวเองเพื่อรับนักท่องเที่ยวจีน การฟื้นตัวครั้งใหม่ผู้ประกอบการควรลดการโฟกัสตลาดท่องเที่ยวจีน กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่น”
ดันโรงแรมฟื้นตัวทุกระดับ :
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ยังมีโอกาสให้ฟื้นตัวอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวไทยกำลังฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ รวมถึงตัวแปรเรื่องการเปิดประเทศของจีน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวจีนกลับมา จะทำให้โรงแรมฟื้นตัวดีขึ้นในทุกระดับ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กที่พึ่งพาตลาดจีน
เช่นเดียวกับ นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขของทางการจีน ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวเกาะสมุย โดยประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะเกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบล้างแค้น เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาติอื่น เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งโรงแรมและร้านอาหารมีความหวังมากขึ้น
โดยไตรมาสที่ 1/2566 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะสมุย โรงแรมในพื้นที่จะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ราว 70-80% หากจีนเปิดประเทศและเดินทางเข้าพื้นที่เกาะสมุยมากขึ้น จะทำให้อัตราการเข้าพักในโรงแรมปรับตัวสู่ระดับ 80-90% ทำให้ช่วยกระจายเม็ดเงินไปยังโรงแรมบางแห่งซึ่งยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
นายรัชชพรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีสายการบินกลับมาให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำเส้นทางจีน-เกาะสมุยอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำเส้นทางเฉิงตู, ซีอาน, ฉงชิ่ง สู่เกาะสมุย
ภูเก็ตตั้งเป้าปี’66 จีน 1 ล้าน :
ด้านนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาคการท่องเที่ยวภูเก็ตทั้งภาครัฐและเอกชนมีการพูดคุย เตรียมความพร้อมการรับนักท่องเที่ยวชาวจีนไว้บ้างแล้ว เช่น การจัดเตรียมสถานที่พักคอยในท่าอากาศยาน ป้ายบอกทางเป็นภาษาจีน ปรับปรุงตารางสายการบินให้เหมาะสม พยายามลดปัญหาเดิม ๆ
นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะที่จะเห็นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย เร็วที่สุดปลายไตรมาสที่ 1/2566 ซึ่งภายใต้เงื่อนไขว่าโครงสร้างพื้นฐานภูเก็ตพร้อมรองรับ คาดว่าตลอดทั้งปี 2566 จะมีชาวจีนเดินทางเข้าภูเก็ตประมาณ 900,000-1,000,000 คน หรือประมาณ 30% ของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าภูเก็ตในปี 2562 (ประมาณ 3 ล้านคน)
และจะช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักของธุรกิจโรงแรม จากค่าเฉลี่ยปี 2565 ประมาณ 60% เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70% ในปี 2566
จี้รัฐเตรียมพร้อมแก้ปัญหา :
นายภูมิกิตติ์กล่าวต่อว่า ประเด็นที่อยากเสนอคือภาครัฐควรอำนวยความสะดวกในพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแก่นักท่องเที่ยวที่ผ่านด่านทางบก เช่น การกรอกใบ ตม.6 ด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้าประเทศไทยผ่านด่านทางบกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเปิดรถไฟความเร็วสูงสายจีน-ลาว รวมถึงเข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมการบิน
ทั้งควรเตรียมพร้อมด้านมัคคุเทศก์ที่ใช้ภาษาจีน โดยเปิดให้มีการต่อใบอนุญาตโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากที่ผ่านมามัคคุเทศก์เหล่านี้ขาดแคลนรายได้ รวมถึงเพิ่มทักษะแก่มัคคุเทศก์เพื่อให้พร้อมรับปริมาณความต้องการของชาวจีน
“เชื่อว่าเมื่อเปิดการเดินทางจริง ชาวจีนจะเดินทางออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากความอัดอั้นอยากเดินทาง เราจะทำอย่างไรเพื่อรองรับปริมาณความต้องการนั้นให้ดีที่สุด ตอนน