สิงคโปร์พัฒนาระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนและรักษาสถานะการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภูมิภาค โดยในปี 2565 มีพัฒนาการที่สำคัญ ดังนี้

 

การเชื่อมโยงทางเรือ :

 

สิงคโปร์ยังคงรักษาสถานะเมืองท่าที่มีการถ่ายลำ (transshipment) มากที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการถ่ายลำมากถึง 37.3 ล้าน TEUs (Twenty-foot Equivalent Units) ลดลงเพียง 0.7% จากปริมาณสูงสุดปีก่อน ขณะที่การขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกลดลง 3-4% และขณะนี้สิงคโปร์ได้เปิดใช้งานท่าเรือ Tuas phase 1 มีท่าเทียบเรือน้ำลึก 3 ท่า และเดินหน้าพัฒนาให้ครบทั้ง 4 phase ภายในปี 2588 ซึ่งจะทำให้สิงคโปร์มีท่าเทียบเรือรวม 21 ท่า รองรับสินค้าได้มากถึง 20 ล้าน TEUs/ปี

 

ธุรกิจท่าเรือในสิงคโปร์เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2565 ที่น่าสนใจคือการพัฒนาเทคโนโลยีทางทะเล เทคโนโลยีเดินเรือ ภายใต้โครงการ Port Innovation Ecosystem Reimagined @ Block 71 (PIER71) มี startup ที่ได้รับการพัฒนากว่า 100 บริษัทและการลงทุนกว่า 50 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์  รวมถึงพัฒนาให้การขนส่งทางเรือรองรับการค้าเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมชีวภาพ biofuel blends ซึ่งปัจจุบันมีการซื้อขายอย่างกว้างขวาง

 

การเชื่อมโยงทางบก :

 

สิงคโปร์และมาเลเซียฟื้นฟูการข้ามพรมแดนทางบกตามมาตรการเปิดประเทศหลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งการเดินทางฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยภายในเดือนธันวาคม 2565 มีการเดินทางเฉลี่ย 3.95 แสนคน/วัน (คิดเป็น 85% ของช่วงก่อนการระบาด) ทั้งนี้ สองประเทศเดินหน้าโครงการ RTS link เชื่อมเส้นทางรถไฟฟ้าระหว่างกันภายในปี 2569 ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 10,000 คน/ชั่วโมง/เที่ยว ช่วยบรรเทาความหนาแน่นการจราจรทางบก ทั้งนี้ สิงคโปร์อยู่ระหว่างเร่งพัฒนาส่วนต่อขยายเครือข่ายรถไฟฟ้า MRT และทางหลวง North-South Corridor (NSC) ภายในประเทศด้วย

 

การเชื่อมโยงทางอากาศ :

 

การสัญจรทางอากาศกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการเปิดประเทศ ปัจจุบันสิงคโปร์อยู่ระหว่างการพัฒนาท่าอากาศยานชางงีให้นำสมัย มีระบบอัตโนมัติขั้นสูง มีพื้นที่ใช้สอยยิ่งขึ้น และเตรียมก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร T5 เพิ่มเติมเพื่อขยายการรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2578  

 

ทั้งนี้ สถิติปี 2565 ท่าอากาศยานชางงีมีผู้เดินทาง 32.2 ล้านคน (คิดเป็น 50% ของช่วงก่อนการระบาด) มีเที่ยวบินกว่า 2.19 แสนเที่ยว และมีสายการบินนานาชาติเข้ามาใช้บริการกว่า 95 สายการบิน  ในด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ (air cargo) ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 มีประมาณ 1.5 ล้านตัน โดยมีเขตเศรษฐกิจที่มีการขนส่งสินค้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ (ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566