อุตสาหกรรมความงามโลกปี 2564 มีมูลค่าสูงถึง 18.5 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3 โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงร้อยละ 36 สินค้าสำคัญที่เติบโตสูงสุดของโลกมี 2 ตัวหลัก คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีการบริโภคเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีศักยภาพ 

 

โดยในปี 2564 มีมูลค่าตลาดสูงถึง 4.5 แสนล้านหยวน มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 1.3 แสนล้านหยวน โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันตกของจีน จึงน่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกและลงทุนในตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในมณฑลเสฉวน นครฉงชิ่ง และมณฑลภาคตะวันตกอื่นๆ

 

จากข้างต้น สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู จึงร่วมมือกับ บริษัท มิสทีน จัดกิจกรรมแสวงหาโอกาสและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทยในมณฑลเสฉวนและนครฉงชิ่ง เพื่อเพิ่มโอกาสและสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทยเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในมณฑลเสฉวนและภาคตะวันตกของจีนมากยิ่งขึ้น โดยได้ประชาสัมพันธ์และเปิดให้ลงทะเบียนกิจกรรมดังกล่าว ผ่านช่องทาง Facebook, Wechat, Weibo และเว็บไซต์ทางการของสถานกงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทย 

 

รวมถึงกลุ่มนักศึกษาจีนในมหาวิทยาลัยเฉิงตู อีกทั้งได้เชิญ KOL ด้านแฟชั่นและความงามเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ขอความร่วมมือให้ KOL ประชาสัมพันธ์กิจกรรมลงบนโซเชียลมีเดีย เช่น Weibo, Instagram และ Dianping เป็นต้น ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2.2 ล้านคน เพื่อสร้างการรับรู้ใหม่ให้แก่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีศักยภาพของไทยในอนาคต

 

ทั้งนี้ ประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมความงามที่สำคัญ โดยในปี 2565 อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยมีมูลค่าสูงถึง 2.21 แสนล้านบาท ผลิตภัณฑ์ Made in Thailand ถือว่าได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยใน 7 เดือนแรกของปี ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมด้านความงามแล้วถึง 64,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% (ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566