อัพเดท! โอกาสการลงทุนด้านอาหาร การประมง และภาคบริการของไทยในบรูไนฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและการท่องเที่ยวของบรูไนฯ ชื่นชมความเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์โควิด-19 สังเกตจากยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศกว่า 10 ล้านคน ในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดมุ่งหมายของชาวต่างชาติ คือ จังหวัดภูเก็ต โดยหนึ่งในจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าวมีชาวบรูไนฯ เป็นจำนวนมากรวมอยู่ด้วย
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว บรูไนฯ เล็งเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนในภาคต่าง ๆ โดยมีความพร้อมที่จะสนับสนุนภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยให้เข้ามาร่วมลงทุนใน 3 ด้านที่สำคัญ ดังนี้
1) อุตสาหกรรมอาหาร – บรูไนฯ มีจุดประสงค์นำเข้าสินค้าประเภทอาหารให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการสนับสนุนการนำเข้าเนื้อไก่และสินค้าประเภทอาหารจากไทย อย่างไรก็ตาม บรูไนฯ มีความเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าฮาลาลเป็นอย่างมาก โดยในส่วนของการนำเข้าเนื้อไก่ ไทยกำลังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันกับหน่วยงานของบรูไนฯ เพื่อหาแนวทางลดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกให้สามารถนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศง่ายขึ้น นอกจากนี้ บรูไนฯ ยินดีที่จะสนับสนุนภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าร่วมการลงทุน โดยมี Strategic Development Capital Fund (SDC) สนับสนุนด้านการเงินแก่โครงการร่วมลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการที่เข้าข่ายอุตสาหกรรมเป้าหมายจะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ
ปัจจุบันไทยและบรูไนฯ ได้มีการเจรจาความร่วมมือทางด้านการนำเข้าเนื้อไก่สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะนำเข้าเนื้อไก่จำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์จากไทยในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะเป็นการนำเข้าระยะยาวอีกด้วย
2) การประมง – บรูไนฯ มีความสนใจที่จะให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยที่ประกอบธุรกิจด้านการประมงและอุตสาหกรรมห้องเย็น cold storage เข้ามาลงทุน เนื่องจากเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพและมีประสบการณ์การลงทุนอยู่แล้วในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนหารือและเตรียมการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อดำเนินการลงทุนด้านการจับปลาใน phase แรก เนื่องด้วยบรูไนฯ สนใจจะนำเข้าปลาทะเลจากไทย
3) อุตสาหกรรมภาคบริการ – บรูไนฯ มีความนิยมในอุตสาหกรรมภาคบริการด้านสุขภาพ จึงอาจพิจารณาส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริการดังกล่าวกับไทย ซึ่งเป็นสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการไทยอยู่ในระหว่างการเจรจาร่วมมือกับภาคเอกชนของบรูไนฯ โดยมีหน่วยงาน BEBD (Brunei Economic and Development Board) เป็นผู้ประสานงาน (ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ บัณดาร์เสรีเบกาวัน)
ที่มา globthailand
วันที่ 2 มีนาคม 2566