เอกชนหนุนต่อ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟสใหม่ อวดต่างชาติดันอัตราเข้าพักพุ่ง 100%
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี หรือพัทยานั้น ขณะนี้อัตราการเข้าพักปรับเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ย อยู่ที่ 70-80% โดยเฉพาะโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างยุโรป รัสเซีย เป็นหลัก กลับไปโตเป็น 100% แล้ว แต่ยังเห็นโรงแรมบางส่วน ประมาณ 30% ที่ยังไม่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ทำให้ซัพพลายห้องพักน้อยลง อัตราการเข้าพักจึงปรับเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่วนนี้มองว่าเป็นโรงแรมขนาดเล็กเป็นหลัก เพราะอาจติดปัญหาทั้งเงินทุนในการกลับมาเปิดอีกครั้ง และการขาดแคลนแรงงานในการจ้างงานกลับมาด้วย โดยในตอนนี้เราเห็นภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติตลาดอื่นๆ อาทิ จีน ที่เคยเป็นฐานลูกค้าต่างชาติของไทย ยังไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนอินเดียแม้เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง เพราะปลดล็อกมาตรการตรวจโควิดผ่าน RT-PCR เมื่อกลับไทยแล้ว แต่ตัวเลขที่เข้ามาก็ยังไม่ดีเหมือนช่วงแรก ที่เข้ามาเที่ยวไทยแบบดูดีมาก
นายธเนศ กล่าวว่า สำหรับกรณีกระแสนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมเดินทางเข้ามาแต่งกายชุดนักเรียนเที่ยวไทยนั้น มองว่าหากสามารถทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมชมชอบความเป็นประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นได้ ก็จะเป็นตัวสร้างจุดขายของเราเพิ่มเติม นอกเหนือจากตัวแหล่งท่องเที่ยว หรือจังหวัดท่องเที่ยวเท่านั้น ส่วนควรจะใช้โอกาสนี้ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างไรบ้างนั้น ก็อาจต้องอาศัยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประเมินว่าจะใช้เป็นโอกาสที่ดีกับภาคการท่องเที่ยวไทยได้อย่างไรบ้าง
นายธเนศ กล่าวว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ถือว่าได้เสียงตอบรับจากประชาชนดีมาก สะท้อนได้จากตัวเลขจำนวนสิทธิหรือห้องพักที่กำหนดไว้ 560,000 สิทธิ ขณะนี้จากข้อมูลบนเว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกัน.com ณ เวลา 21.30 น. มีจำนวนสิทธิคงเหลืออยู่ที่ 134,300 สิทธิหรือห้องพักเท่านั้น ซึ่งประเมินว่าจำนวนสิทธิที่เหลือเท่านั้น ไม่เกิน 2 วันก็ถูกจองหมดแล้ว ด้วยความที่ระยะเวลาในการดำเนินโครงการสั้นด้วย ถึงเพียงวันที่ 31 เมษายน 2566 เท่านั้น รวมถึงช่วงนี้เป็นเดือนที่เด็กนักเรียนปิดเทอม ทำให้คนที่มีครอบครัวจึงมีความต้องการรีบจองโรงแรมที่พักเพื่อวางแผนท่องเที่ยวกับครอบครัวไว้ก่อน
นายธเนศ กล่าวว่า หากมีการขยายเวลาดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรือทำเป็นเฟสใหม่ออกมาเพิ่มได้อีก ก็จะสามารถช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมานับตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงขณะนี้ ภาคการท่องเที่ยวไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในตลาดระยะไกล อาทิ ยุโรป รัสเซีย เข้ามาช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของตลาดระยะไกล แต่ในระยะต่อจากนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะไกลจะเริ่มเดินทางกลับประเทศต้นทางแล้ว ทำให้ต่างชาติที่จะสนับสนันการท่องเที่ยวไทยเหลือแต่ตลาดเอเชีย หรือตลาดระยะใกล้เป็นหลัก ทำให้หากมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันออกมาช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยได้ จะดีมาก โดยเฉพาะธุรกิจที่รับลูกค้าคนไทยเป็นหลัก อาทิ โรงแรมขนาดเล็กจำพวกเอสเอ็มอีต่างๆ แต่ก็เข้าใจว่าขึ้นอยู่กับงบประมาณของรัฐบาล ว่าจะมีช่องทางหางบมาสนับสนุนในการดำเนินโครงการใหม่หรือไม่ เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเกิดการเลือกตั้งแล้ว ทำให้มีสูญญากาศของรัฐบาลประมาณหนึ่ง ซึ่งช่วงนั้นก็ไม่แน่ใจว่าจะมีการอนุมัติงบประมาณอะไรออกมาได้หรือไม่
“เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 นี้ ที่ผ่านมาได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ว่าตัวกลไกขั้นตอนในการสมัครเข้าร่วมนั้น ยังติดขัดอยู่มากพอสมควร อาทิ ผู้ประกอบการส่งเรื่องสมัครไปแล้วพร้อมเอกสารครบถ้วน แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เมื่อสอบถามเรื่องไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็แจ้งว่าเป็นการประเมินของธนาคารกรุงไทย แต่เมื่อสอบถามไปยังกรุงไทย ก็แจ้งให้กลับมาสอบถามที่ททท.แทน ซึ่งมองว่าน่าจะประสานกันได้ดีกว่านี้ เพราะขณะนี้โครงการดำเนินไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมก็มี” นายธเนศ กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 9 มีนาคม 2566