รู้จักเมืองยวี่ซี! สร้างโอกาสการค้า-ลงทุนไทย
เมืองยวี่ซีและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน และมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดรอบด้านทั้งการท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และโดยเฉพาะการค้าการลงทุน เช่น การนำเข้า-ส่งออกผักสดและผลไม้ระหว่างกัน โดยในปี 2565 การส่งออกสินค้ามายังไทยมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านหยวน และการนำเข้าสินค้าจากไทยมีมูลค่าประมาณ 33 ล้านหยวน มีบริษัทจากเมืองยวี่ซีเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว 10 ราย รวมถึงการเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างจีน-สปป.ลาว-ไทยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ในเส้นทาง R3A ทางด่วนช่วงคุนหมิง-ยวี่ซีถือเป็นต้นทางของทางหลวงคุนหมิง-กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของเมืองยวี่ซียังขยายตัวอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมื่อปี 2565 GDP ขยายตัวประมาณ 5% และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในอันดับที่ 1 ของภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน อีกทั้งเมืองยวี่ซียังเป็นแหล่งปริมาณสํารองแร่สำคัญของจีนและมณฑลยูนนาน ได้แก่ นิกเกิล (อันดับ 2 ของจีน) เหล็ก (อันดับ 1 ของยูนนาน) ฟอสฟอรัส (อันดับ 2 ของยูนนาน) และทองแดง ล่าสุด ได้มีการขุดพบแร่ลิเทียมจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ของจีนและอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ซึ่งการขุดพบแร่ลิเทียมนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการผลิต เนื่องจากลิเทียมเป็นแร่วัตถุดิบที่สำคัญในภาคการผลิต เช่น อุตสาหกรรมแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริด
ดังนั้น เมืองยวี่ซีจึงได้มีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ลิเทียม เพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมพลังงานใหม่และยานยนต์ไฟฟ้า โดยอุตสาหกรรมพลังงานใหม่และยานยนต์ไฟฟ้าจะถูกยกขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมหลักแทนที่อุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 19% ของมูลค่า GDP เมือง และมีสัดส่วนคิดเป็น 58% ในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของเมือง อีกทั้งการมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมลิเทียมดังกล่าวสอดคล้องกับความต้องการแร่ลิเทียมที่เพิ่มสูงขึ้นจากอุปทานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงช่วยสนับสนุนเป้าหมายของจีนที่มุ่งพัฒนาเป็นผู้นําด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของโลก จึงจะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะเข้ามาร่วมลงทุนในด้านดังกล่าว (ข้อมูล : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง)
ที่มา globthailand
วันที่ 4 เมษายน 2566