เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ผู้นำธุรกิจถั่วเหลืองของอาร์เจนตินา “King of Soybean” หรือ นาย Gustavo Grobocopatel มีการหารือร่วมกันกับคณะทูตอาเซียน ในด้านความร่วมมือด้านถั่วเหลือง ความเคลื่อนไหวทางธุรกิจถั่วเหลือง และ ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรโดยเฉพาะถั่วเหลืองระหว่างประเทศอาร์เจนตินากับประเทศสมาชิกอาเซียน !

 

อาร์เจนตินาร์อยู่ในฐานะผู้ส่งออกน้ำมันถั่วเหลือง (Soybean Oil) และ อาหารถั่วเหลืองสำหรับเลี้ยงสัตว์ (Soybean Meal) เป็นอันดับหนึ่งของโลก มีพื้นที่เพาะปลูก 35 ล้านเฮกตาร์ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเกษตรกรรม Pampa เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ของดินและฝนตกชุก ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรมหลักของประเทศ ผลผลิตของถั่วเหลืองในปี 2564 และ 2565 มีการผลิตอยู่ที่ 44 ล้านตัน 

 

โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะผลิตได้ 30 ล้านตัน เนื่องจากสภาวะแล้ง โดยผลผลิตที่ส่งออกเป็นน้ำมันถั่วเหลืองประมาณ 5.15 ล้านตัน และ อาหารถั่วเหลืองสำหรับเลี้ยงสัตว์ (Soybean Meal) ประมาณ 28.20 ล้านตัน ซึ่งใช้สำหรับการบริโภคของคนและปศุสัตว์ ทั้งนี้ อาร์เจนตินาเป็นแหล่งผลิตรวมถึงส่งออกอันดับต้นของโลก และ เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางอาหารที่มีศักยภาพสูง โดยถั่วเหลืองถือเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของอาร์เจนตินา

 

การผลิตและส่งออกอาหารสัตว์

 

การผลิตอาหารถั่วเหลืองสำหรับเลี้ยงสัตว์ มีผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ได้แก่ จีน สหรัฐฯ อาร์เจนตินา บราซิล และ สหภาพยุโรป แต่ด้านของผู้ส่งออกอันดับต้นของโลกนั้น ได้แก่ อาร์เจนตินา และ บราซิล เนื่องจากมีการผลิตเพื่อส่งออกมากกว่าการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะอาร์เจนตินามีการส่งออกเกือบทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 95-97% ของการผลิต โดยปัจจุบันผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ได้แก่ สหภาพยุโรป และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย และ ฟิลิปปินส์

เทคนิคและเทคโนโลยีเพาะปลูกถั่วเหลืองที่น่าสนใจของอาร์เจนตินา ได้แก่ 

 

1) การใช้ระบบเพาะปลูกแบบสลับหมุนเวียนพืชไร่ในแปลงปลูกเดียวกันในแต่ละปี หรือ Crop rotation system ระหว่างถั่วเหลือง ข้าวสาลี ข้าวโพด ทานตะวัน และ ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจอันดับต้น ๆ ของอาร์เจนตินา โดยเกษตรกรเป็นผู้แบ่งสรรแปลงเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดที่สามารถเกื้อกูลต่อกันได้ 

 

2) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงร่วมกับการไม่ใช้ระบบไถกลบ หรือ No-till system  เพื่อลดการพังทลายของหน้าดิน และ ปัญหาสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้ช่วยในการลดปริมาณการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง และ คงความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดิน ด้วยวิธีการลดปุ๋ย และ 

 

3) การให้ภาคเอกชนพัฒนาเทคโนโลยีและห้องปฏิบัติการขึ้นเอง โดยใช้ระบบดาวเทียมในการสำรวจและวิเคราะห์เพื่อเพิ่มศักยภาพในความแม่นยำ ซึ่งมีงบสำหรับการสนับสนุนเกษตร และ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐ เอกชน นักวิจัยจากสถาบันการศึกษา และ เกษตรกร

 

จำนวนของเกษตรกรที่ปลูกถั่วเหลืองในอาร์เจนตินา ปัจจุบัน มีประมาณ 150,000 คน โดยผู้ประกอบการด้านถั่วเหลืองมีประมาณ 1 หมื่นราย และ มีบริษัทส่งออก ประมาณ 20 บริษัท  โดยบริษัท Los Grobo ของ นาย Gustavo Grobocopatel มีพื้นที่เพาะปลูก 250,000 เฮกตาร์ มีการผลิต รับซื้อถั่วเหลือง และ ส่งออก ปีละประมาณ 3 ล้านตัน ตลอดจนการบริการให้คำปรึกษาด้านเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง การจัดการปัจจัยเสี่ยงและการเงิน และ จำหน่ายอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการเกษตร โดยมีห้องทดลองด้านเคมีชีวภาพที่ทันสมัย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับในหลายประเทศ

 

ความร่วมมือสาขาความมั่นคงทางอาหารระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ASEAN

 

นาย Gustavo Grobocopatel เสนอให้บริการเป็นที่ปรึกษา หากประเทศสมาชิกในอาเซียนสนใจที่จะพัฒนาแหล่งเพาะปลูกถั่วเหลืองควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนาชนบท และ การร่วมลงทุนด้านธุรกิจถั่วเหลือง รวมทั้งให้บริการด้านวัตถุดิบ ทั้งการผลิตที่ใช้สัตว์และเพื่อการบริโภค พร้อมทั้งเชิญชวนให้นักธุรกิจจากอาเซียนสามารถไปศึกษาและร่วมลงทุนในด้านระบบขนส่งท่าเรือ เพื่อกระจายสินค้าการเกษตรจากอาร์เจนตินามายังประเทศอาเซียน

 

โอกาสของประเทศไทย !

 

จากการที่นักธุรกิจอาร์เจนตินามีเป้าหมายในการส่งออกหรือร่วมลงทุนกับต่างประเทศมากขึ้นนั้น ภาคเอกชนไทยที่มีความสนใจสามารถศึกษาและพัฒนาความร่วมมือ หรือ ร่วมลงทุนในการกระจายสินค้าเกษตรจากอาร์เจนตินามายังไทย และ เป็นโอกาสที่ควรพิจารณาในการให้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางในการกระจายสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคได้อีกด้วย ซึ่งไทยสามารถร่วมมือกับอาร์เจนตินาในด้านการพัฒนาสายพันธุ์ถั่วเหลืองในการเพิ่มผลผลิตการเพาะปลูกด้วยการศึกษาเทคนิคและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับถั่วเหลืองจากอาร์เจนตินาได้ (ข้อมูล : ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 7 เมษายน 2566