นโยบายการค้าต่างประเทศของอินเดีย (Foreign Trade Policy 2023)
ภาพรวมนโยบายการค้าต่างประเทศของอินเดีย :
นโยบายการค้าต่างประเทศของอินเดีย (Foreign Trade Policy 2023: FTP 2023) เป็นการกำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายการค้าของอินเดียกับต่างประเทศที่จัดทำขึ้นเพื่อทดแทน FTP ฉบับ ค.ศ. 2015-2020 ซึ่งเดิมมีกำหนดใช้ถึง 31 มีนาคม 2563 แต่รัฐบาลอินเดียได้ขยายระยะเวลาการใช้จนถึง 31 มีนาคม 2566 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และ FTP 2023 นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2566
โดยกรอบความคิดในการกำหนดนโยบายดังกล่าวมาจากนโยบายพึ่งพาตนเอง (Self-Reliance India – Atmanirbhar Bharat) ที่รัฐบาลอินเดียใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจมาก่อนหน้า และวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถของอินเดียด้านการส่งออกบนพื้นฐานขนาดของประเทศและกำลังการผลิต โดย FTP 2023 ผ่านการหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายมาเป็นระยะเวลานาน
FTP 2023 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ และเป้าหมายการส่งออกของอินเดีย โดยกำหนดไว้ที่มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อเพิ่มสัดส่วนของอินเดียในระบบห่วงโซ่อุปทานและเศรษฐกิจโลกโดยมี 4 แนวทางหลักได้แก่
1) เปลี่ยนจากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (incentives) เป็นการเว้นจากภาระภาษี (tax remission)
2) อำนวยความสะดวกการทำธุรกิจ โดยส่งเสริมการค้าผ่านการใช้เทคโนโลยี
3) ส่งเสริมการส่งออกผ่านการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ส่งออก หน่วยงานระดับรัฐ หน่วยงานระดับเขต หน่วยงานอินเดียในต่างประเทศ
4) ส่งเสริมการค้ารูปแบบใหม่ อาทิ การส่งออก E-Commerce การพัฒนาเขตในระดับรัฐให้เป็นแหล่งการส่งออก
ประเด็นสำคัญของนโยบายการค้าต่างประเทศของอินเดีย :
1) เพิ่ม Ease of Doing Business โดยให้ความสำคัญกับการใช้ IT และระบบอัตโนมัติ (Re-Engineering and Automation) อาทิ การอนุมัติใบอนุญาตเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ การออก E-Certificate of Origin และการลดค่าธรรมเนียมสำหรับกลุ่ม MSME
2) ส่งเสริมการส่งออก โดยพัฒนาขีดความสามารถและอำนวยความสะดวกการส่งออกด้วยระบบ IT อาทิส่งเสริมการทำการค้าระหว่างประเทศ โดยใช้เงินสกุลรูปีสร้างมาตรฐานรับรองและจัดอันดับสถานะ (1-5 ดาว) ผู้ส่งออกและพัฒนาทักษะส่งเสริมการส่งออก SCOMET (Special Chemicals, Organisms, Materials, Equipment and Technologies)
3) พัฒนาเขตในระดับรัฐให้เป็นแหล่งการส่งออก สร้างกลไกในระดับรัฐและระดับเขตเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการเด่นในแต่ละรัฐ/เขต (District and Export Hubs Initiative) เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ผลักดันโครงการ Towns of Export Excellence – TEEs (ปัจจุบันมี 39 เมือง) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อการส่งออกในเมืองต่าง ๆ ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกัน โดยเพิ่มอีก 4 เมือง ได้แก่ Faridabad Mirzapur Moradabad และ Varanasi ให้เป็น TEE และสร้างขีดความสามารถให้กับเขตในด้านต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ด้านการส่งออก การฝึกอบรมด้านการออกแบบ การตลาด รวมทั้งอำนวยความสะดวกการส่งออกด้วยมาตรการด้านระเบียบต่าง ๆ
4) ส่งเสริมการค้าผ่าน E-Commerce ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 200-300 พันดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2030 โดยกำหนดแผนงานเพื่อจัดตั้ง e-commerce hubs ส่งเสริมการใช้ IT และพัฒนาระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องเพื่อลดขั้นตอน/อำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าที่ทำธุรกรรมผ่านช่องทางนี้ทั้งด้านการชำระเงิน การจัดส่งสินค้า รวมถึงการอบรมพัฒนาความรู้แก่ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกที่เป็นช่างฝีมือ สิ่งทอ ผ้าทอมือ อัญมณีและเครื่องประดับ และการออกแบบเครื่องประดับ
5) ส่งเสริมขีดความสามารถการผลิตของอุตสาหกรรมเพื่อส่งออก โดยยังคงมาตรการอำนวยความสะดวกการนำเข้าสินค้าทุนที่จำเป็นสำหรับการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกภายใต้ Export Promotion of Capital Goods (EPCG) Scheme และ Advance authorization Scheme โดยอนุญาตให้นำเข้าในอัตราภาษีศุลกากรเป็นศูนย์และเพิ่มสินค้าบางรายการที่สามารถลดหย่อนภาษีสำหรับสินค้าทุนในการผลิตได้ อาทิ สินค้าที่ผลิตภายใต้โครงการ Prime Minister Mega Integrated Textile Region and Apparel Parks (PM MITRA) ผลิตภัณฑ์นม รวมทั้งผลิตภัณฑ์/เครื่องมือที่ใช้แบตเตอรี่แบบ EV อาทิ รถยนต์ทุกชนิด เครื่องจักรการเกษตร การบำบัดน้ำเสียที่เป็น Green Technology รวมทั้งสิ่งทอ/เสื้อผ้า ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนนโยบาย Make In India
6) ส่งเสริมให้เมืองสำคัญ ๆ ของอินเดียเป็นศูนย์กลางการค้า (Merchanting Trade Hub) ในภูมิภาคในลักษณะเดียวกับดูไบ สิงคโปร์ และฮ่องกง
โอกาสและความท้าทายต่อประเทศไทย :
FTP 2023 เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับประเทศไทย โดยผู้ประกอบการไทยอาจได้ประโยชน์จากการส่งออกสินค้าที่เป็นทุนการผลิต ความสะดวกจากระบบ e-commerce ในการส่งออกสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ หรือการเป็นหุ้นส่วนการลงทุนเพื่อผลิตสินค้าที่ต้องอาศัยเทคโนโลยี/ความรู้ขั้นสูง ตลอดจนได้อานิสงส์จาก FTA ระหว่างอินเดียกับประเทศต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็อาจกระทบต่อการขยายตลาดในอินเดียในสินค้าหลายรายการ หากผู้ประกอบการอินเดียนั้นมีขีดความสามารถมากขึ้น
ทั้งนี้ สามารถสืบค้น FTP 2023 ฉบับเต็มได้ที่ https://www.dgft.gov.in/CP (ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี)
ที่มา globthailand
วันที่ 12 เมษายน 2566