Trip.com เผยไทยปลายทางเบอร์ 1 นทท.จีน เชื่อทัวร์ศูนย์เหรียญยังไม่กลับมา
Trip.com เผยเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวนานขึ้น จองล่วงหน้าไม่นาน ไทยยังครองเบอร์หนึ่งเดสติเนชั่นชาวจีน กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยาปลายทางสุดฮ็อต เชื่อทัวร์ศูนย์เหรียญยังไม่กลับมา
วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 นางสาวซุน เทียนซู รองประธานกรรมการ ทริปดอทคอมกรุ๊ป เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต้องการเดินทางมาเยือน ข้อมูลพบว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ค้นหาข้อมูลการออกเดินทางมาจากมหานคร-มณฑลขนาดใหญ่ของจีน เช่น ปักกิ่ง กว่างโจว เซี่ยงไฮ้ โดยสนใจหาข้อมูลประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย สิงคโปร์ มัลดีฟส์ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนตัดสินใจเดินทาง กลับเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง โดยจุดหมายที่ได้รับความนิยมคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่ยังมีการฟื้นตัวช้า เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ในประเทศไทย
“นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยยังเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (F.I.T.) กลุ่มขนาดเล็ก บุคคลภายในครอบครัว มีอายุราว 30-40 ปี ขณะที่นักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ยังไม่เดินทางเข้ามามากนัก” นางสาวซุนกล่าว
นอกจากนี้ หลังสถานการณ์โควิด-19 ยังเห็นแนวโน้มพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เปลี่ยนไป โดยนักเดินทางใช้ระยะเวลาเดินทางเพิ่มมากขึ้น จากเดิม 3-4 วัน เป็น 6-7 วัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเดินทางไปยังสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ใช้เวลาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เป็นเวลานาน และมีพฤติกรรมสำรองบัตรโดยสารเครื่องบินล่วงหน้าเพียง 10 วัน จากเดิมราว 14 วัน
นางสาวซุน กล่าวว่า ไตรมาสที่ 1/2566 พบว่า เที่ยวบินระหว่างไทยและจีนยังมีให้บริการเพียง 30% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 ขณะราคาบัตรโดยสารยังสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 อยู่
โดยเที่ยวบินเที่ยวเดียวมีราคาแพงกว่าอดีตอยู่ราว 500-600 หยวน (ประมาณ 2,443-2,932 บาท) และเที่ยวบินไปกลับแพงกว่าอดีตที่ราว 300-400 หยวน (ประมาณ 1,466 – 1,955 บาท) ทั้งนี้ ประเมินว่าภายในสิ้นปี 2566 ปัญหาจำนวนเที่ยวบินระหว่างไทยและจีนที่ขาดแคลนจะเริ่มคลี่คลาย
สำหรับประเด็นข่าวด้านลบที่ถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชี่ยลมีเดียจีนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น นางสาวซุน ยอมรับว่า ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลให้นักท่องเที่ยวจีนอยู่บ้าง และทางแพลตฟอร์มของบริษัทได้มีการสื่อสารข้อเท็จจริงไปยังชาวจีนเรียบร้อยแล้ว
ส่วนประเด็นทัวร์ศูย์เหรียญนั้น ประเมินว่า ธุรกิจที่ให้บริการทัวร์แบบศูนย์เหรียญนั้น จะยังไม่กลับมาให้บริการในเวลาอันใกล้ เนื่องจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในเวลานี้เน้นเดินทางด้วยตนเอง และเที่ยวตามความชอบมากกว่าเที่ยวกับบริษัททัวร์
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 4 พฤษภาคม 2566