ศักยภาพไทย ไม่แผ่ว! ดึงจีนไทเปลงทุนเพิ่ม
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 บริษัท PwC Taiwan ร่วมกับสมาคมธุรกิจ Third Wednesday Club ได้จัดงานสัมมนาการลงทุน “จับตาอาเซียน – มุ่งสู่ประเทศไทย” ที่เมืองไถจง โดยได้เชิญผู้แทนของสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย และสำนักงาน BOI จีนไทเป เข้าร่วมเพื่อให้ข้อมูลแก่นักธุรกิจที่สนใจ ซึ่งมีผู้แทนจากบริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมประมาณ 200 บริษัท
ทางสำนักงานการค้าฯ ได้ใช้โอกาสนี้เน้นย้ำความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมชั้นนำในจีนไทเป และได้กล่าวถึงศักยภาพที่สำคัญของประเทศไทย 4 ประการ ได้แก่
(1) ความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ซึ่งไทยมีแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีบนพื้นฐานที่มั่นคงภายหลังโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณ FDI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมา
(2) ศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลาง (hub) ของภูมิภาค ทั้งในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจสร้างสรรค์ โลจิสติกส์ บุคลากร และการมองไปยังอนาคตผ่านแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจ BCG อีกทั้งประเทศไทยยังมีความตกลงการค้าเสรีกับตลาดขนาดใหญ่ มาตรฐานการบริการธนาคาร รวมทั้งระบบออนไลน์ที่ทันสมัยและสนับสนุนการประกอบธุรกิจอย่างเป็นระบบ
(3) ไทยมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนการแข่งขัน ค่าแรงสำหรับแรงงานฝีมือ รวมถึงการมีการจัดจ้างแรงงานต่างชาติอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยลดต้นทุนสำหรับอุตสาหกรรมที่ยังต้องใช้แรงงานจำนวนมากได้ และ
(4) ความได้เปรียบด้านคุณภาพชีวิตและปัจจัยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค การให้บริการทางการแพทย์ซึ่งอยู่ในอันดับต้นของโลก และระบบอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรคมนาคม เป็นต้น
ด้านบริษัท Taiwan Glass Inc. ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกระจกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย ได้เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยด้าน
(1) ความพร้อมในการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่เข้มแข็ง
(2) ไทยมีช่องทางการจ้างแรงงานต่างชาติ ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนสำหรับอุตสาหกรรมที่ยังมีความต้องการแรงงานสูงได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทได้มีการศึกษาลู่ทางลงทุนในการจัดตั้งโรงงานผลิตกระจกรถยนต์ในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ซึ่งจะเป็นการขยายการลงทุนนอกจีนของบริษัทเป็นครั้งแรก
จากโอกาสข้างต้น สำนักงานการค้าฯ จึงได้ประสานงานกับสำนักงาน BOI จีนไทเป เพื่อดำเนินการเน้นย้ำความสนับสนุนจากประเทศไทย โดยการลงทุนของบริษัท Taiwan Glass Inc. ในไทยครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่ของจีนไทเปแล้ว ยังจะเป็นการเสริมศักยภาพประเทศไทยให้ดึงดูดบริษัทในเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานเกิดความมั่นใจและสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วย (ข้อมูล: สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย)
ที่มา globthailand
วันที่ 9 พฤษภาคม 2566