ผู้เชี่ยวชาญชี้ แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน คือ "ภัยคุกคามอุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรปที่แท้จริง" และแบรนด์ยุโรปไม่อาจเจาะตลาดจีนได้ด้วยตัวเอง อาจต้องร่วมพาร์ทเนอร์กับแบรนด์จีนมากขึ้น

 

“คริสเตียน คาเมส” กรรมการผู้จัดการลาซาร์ด ธุรกิจให้คำปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยในงานจัดแสดงรถยนต์ไอเอเอ ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีว่า รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนก่อให้เกิดภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรปอย่างแท้จริง

 

ไอเอเอ ระบุว่า แบรนด์รถยนต์ที่เข้ามาจัดแสดงสินค้าประมาณ 40% มาจากเอเชีย และแบรนด์รถยนต์จากจีนเข้าร่วมงานในปีนี้มากกว่า 2 เท่า จากเดิมเข้าร่วม 29 แบรนด์ในปี 2564 เป็น 75 แบรนด์ในปีนี้ และมีบริษัทเข้าร่วมงานเกือบ 750 แห่ง จากทั้งหมด 38 ประเทศ

 

คาเมสบอกว่า จำนวนบริษัทรถยนต์จีนที่เข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจเหล่านี้มองตลาดยุโรปเป็นตลาดเป้าหมายต่อไปที่อยากพิชิตให้ได้ และความเห็นดังกล่าวสะท้อนว่า แบรนด์รถยนต์จีนมองว่ายุโรปเป็นตลาดสำคัญของการขยายธุรกิจไปทั่วโลก

 

ด้าน “เบรน กู” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เสี่ยวเผิงให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ (4 ก.ย.) ว่า “เราตระหนักดีว่าเยอรมนี เป็นตลาดมาตรฐานสูงสุด และมีความสำคัญมากที่สุดสำหรับทุกแบรนด์”

 

ขณะที่ยูบีเอส ธนาคารเพื่อการลงทุนสัญชาติสวิส ปรับลดเรตติงผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป 2 แห่ง เพราะภัยคุกคามจากตลาดอีวีจีนที่กำลังขยายตัว

 

ด้านคาเมสย้ำว่า “แบรนด์รถยนต์ยุโรปทราบดีว่า ผู้ผลิตรถยนต์จีนเป็นภัยคุกคามที่แท้จริง คำถามคือ พวกเขาต้องทำอย่างไรต่อไป ผมไม่คิดว่าเรายังอยู่ในจุดที่ประเมินแบรนด์รถจีนต่ำอีกต่อไป”

 

“คริส ไรเตอร์มันน์” ซีอีโอ Ogilvy ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและจีนแผ่นดินใหญ่ ธุรกิจโฆษณาและการตลาด ให้สัมภาษณ์กับ เอเวลิน เฉิง นักข่าวของซีเอ็นบีซี เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่า “ความก้าวหน้าของการขยายธุรกิจรถยนต์จีนในตลาดยานยนต์อีวียุโรป ช่วยสอนยุโรปได้ว่า พวกเขาสามารถเจาะตลาดเอเชียให้มากขึ้นได้อย่างไร”

 

ไรเตอร์มันน์เสริมว่า บริษัทรถยนต์ยุโรปหลายแห่งขยายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าช้า เพราะประเมินความยิ่งใหญ่ของอุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้าต่ำเกินไป การเร่งเปลี่ยนไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อาจเป็นบทเรียนที่ดีต่อบริษัทยุโรปว่าต้องดำเนินธุรกิจอย่างไร ถ้าอยากประสบความสำเร็จในจีน

ไรเตอร์มันน์ ย้ำอีกว่า

 

“ตอนนี้แบรนด์ยุโรปส่วนใหญ่ตระหนักแล้วว่าพวกเขาไม่สามารถเจาะตลาดจีนได้ด้วยตนเอง และไม่อาจประสบความสำเร็จในตลาดจีนได้ด้วยตนเอง นั่นเป็นสาเหตุที่โฟล์คสวาเกนร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับเสี่ยวเผิง และคุณจะได้เห็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทต่างชาติอีกหลายแห่ง”

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

วันที่ 7 กันยายน 2566