ททท.ร่วม SME D Bank- ETDA จัดงาน Travel Tech Conference ติดอาวุธผู้ประกอบการท่องเที่ยวเติบโตยั่งยืน
ททท. ผนึก SME D Bank- ETDA-เออาร์ไอพี จัดงาน Travel Tech Conference ทั้งแบบออนไลน์-ออนไซต์ 15-24 ก.ย. ที่ True Digital Park มุ่งส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี-นวัตกรรม สู่ความยั่งยืน
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันการท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ขณะที่หัวจักรด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ประสบปัญหา อาทิ การส่งออกหดตัว หนี้สาธารณะที่สูง เป็นต้น ดังนั้นทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมจึงมีบทบาทสำคัญที่จะผลักดันวาระของประเทศในการนำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศ รวมถึงการสนับสนุน การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ และการกระจายรายได้ที่เกิดจากภาคการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น”
ททท.จึงร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA และบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ Enhancing Thailand Tourism 2023 งาน Travel Tech Conference เพื่อเป็นเวทีขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่อผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว จะสามารถนำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการของตนตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
“ททท.ต้องการสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวเพื่อเปิดรับแนวทางใหม่ ๆ รวมทั้งปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ มาช่วยเพิ่มขีดความสามารถการทำธุรกิจและการตลาด” นายอภิชัย กล่าวและว่า นอกจากนี้ เวทีนี้ยังจะเป็นการขยายโอกาสให้กลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว (Travel Tech) รวมถึงเปิดตลาดให้นักพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการโดยตรง เพื่อให้เกิดการจับคู่นวัตกรรมกับความต้องการด้านนวัตกรรมของภาคท่องเที่ยวให้เกิดการจ้างงานหรือใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ ททท.คาดการณ์แนวโน้มรายได้ด้านการท่องเที่ยวในปี 2567 จะกลับสู่ภาวะปกติ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยว ก้าวสู่ High Value and Sustainable Tourism ในการผลักดันเป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ได้ 3 ล้านล้านบาท
นายพิชิต มิทราวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า ในช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น ช่วงสุดท้ายของปีนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคงต้องการเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง นำไปใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการหรือปรับเปลี่ยนธุรกิจ
SME D Bank จึงจัดเตรียมสินเชื่อพิเศษไว้พร้อมบริการวงเงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท เช่น สินเชื่อ “SME D พร้อม” จุดเด่นสามารถกู้ได้สูงสุดถึง 120% ของราคาประเมินหลักประกัน สามารกกู้ได้ทุกกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อ “SME Speed Up” วงเงิน 4,000 ล้านบาท สามารถกู้ได้แม้ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยใช้ บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงินจำนวน
นอกจากนี้มีการจัดโปรแกรมพัฒนาฟรีแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่สนใจ ผ่านโครงการ “SME D Coach” บริการคำปรึกษาและแนะนำธุรกิจโดยทีมโค้ชมืออาชีพ ทั้งภาครัฐและเอกชน ควบคู่พาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาต่าง ๆ เช่น อบรม สัมมนา จับคู่ธุรกิจ เป็นต้น และสำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยใช้สินเชื่อจาก SME D Bank มาก่อน หากยื่นกู้และเบิกใช้วงเงินตั้งแต่ 1-50 ล้านบาท ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ “Cash Back” มูลค่าสูงสุด 60,000 บาท
ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA กล่าวว่า ETDA ได้ให้ความสำคัญในการดำเนินงานเพื่อต่อโจทย์เป้าหมายระดับประเทศระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) กับตัวเลข 30:30 ทั้งในด้านการเพิ่มสัดส่วนมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP เป็นร้อยละ 30 และการขยับอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของไทยให้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 30 โดยกลไกขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ไปถึงเป้าหมายนี้ คือการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิด Digital Transformation & Adoption ในกระบวนการดำเนินงาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก ได้เปลี่ยนผ่านการทำงานและการทำธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและโอกาสทางธุรกิจ
ดร.ตฤณ กล่าวว่า จากผลสำรวจ SMEs Digital Maturity ที่ ETDA จัดทำในปีนี้ถึงข้อมูลความพร้อมของ SMEs ในอุตสาหกรรมต่างๆ กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล พบว่ากลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังมี Gap ด้านความพร้อมอยู่ ETDA จึงร่วมกับ Partner เพื่อให้เกิดกระบวนการส่งเสริมทั้งในด้านความรู้ และการหานวัตกรรม โซลูชัน หรือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการในอุตสาหกรรม เช่น การจัดหลักสูตร 2TX หรือ Tech Transformation Expedition สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในรูปแบบ Digital Tourism
ขณะเดียวกัน ได้ส่งเสริมกลุ่มผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลไปพร้อมกันผ่านกิจกรรม Hack for GROWTH ที่เฟ้นหาโซลูชัน นวัตกรรม เพื่อช่วยธุรกิจท่องเที่ยวให้เติบโตทางด้านรายได้และพัฒนาบุคลากรในองค์กรไปด้วยกัน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสต่อยอดธุรกิจให้กลุ่มผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลด้วย รวมถึงการมีบริการรับรองระบบสารสนเทศของผู้ให้บริการ e-Tax Invoice และ e-Receipt ที่จะช่วยในกระบวนการทำงาน และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังต้องทำงานอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป ควบคู่ไปกับการประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการดำเนินงานของ ETDA ในระยะยาว
นายกฤติเดช ทองเพิ่ม ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาที่พบหลังโควิดผ่านพ้นแล้วที่จะทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแรง เรื่องแรกคือเงินทุน สองคือเรื่องความรู้ที่จะนำมาพัฒนาธุรกิจและทำการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตลาดในยุคดิจิทัล และสามคือเทคโนโลยี ผู้ประกอบการมีโอกาสในการเข้าถึงและรู้จักนวัตกรรมต่างๆ ค่อนข้างน้อย ดังนั้น โครงการ Enhancing Thailand Tourism เป็นอีกโครงการที่มีแนวทางส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเติมนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้ได้เข้าถึงเครื่องมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มและสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมรองรับเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคตอีก 10-20 ปีข้างหน้า
นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งาน Enhancing Thailand Tourism 2023 จัดในรูปแบบ Hybrid Event ระหว่างวันที่ 15-24 กันยายนนี้ แบ่งการจัดงานเป็น Online Event ทาง Virtual Platform (www.enhancingthailandtourism.com ) ในวันที่ 15-24 กันยายน
และ Onsite Event วันที่ 23-24 กันยายน ห้อง Grand Hall ชั้น 3 อาคาร True Digital Park ซึ่งนอกจากงานสัมมนาและเสวนาวิชาการที่รวมสุดยอดกูรู ยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ มากประสบการณ์ด้านธุรกิจท่องเที่ยวและการตลาดดิจิทัล พร้อมเสริมสร้างความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวและผู้สนใจ รวมทั้งมีการออกบูธจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เครือข่ายพันธมิตร และสินค้านวัตกรรมจากผู้พัฒนาฯ ที่คัดสรรเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้เหมาะกับธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว ยังมีกิจกรรม Workshop พิเศษสำหรับผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ได้เรียนรู้ วิเคราะห์ และต่อยอดธุรกิจ รวมถึงการใช้เครื่องมือสมัยใหม่เพื่อให้พร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล (โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มูลค่าถึง 15,000 บาท ที่นั่งมีจำนวนจำกัด) และมีการจับคู่ทางธุรกิจ ในโซน Business Matching อีกด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 8 กันยายน 2566