หอการค้าฯ จับมือบิ๊กโมเดิร์นเทรด จัด "Big Match" ช่วยเอสเอ็มอีขยายตลาด
หอการค้าไทยจับมือบิ๊กโมเดิร์นเทรด เปิดตัวกิจกรรม "Big Match 2566" สร้างโอกาสผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขยายช่องทางการตลาดยุคใหม่ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมดึงโชว์ศักยภาพในงานแสดงสินค้านาชาติ สร้างโอกาสขยายตลาดต่างประเทศ ดีเดย์เจรจาจับคู่จริง 29 พ.ย.นี้
รายงานข่าวจากหอการค้าไทย (5 ต.ค. 66) เผยว่า คณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม “Big Match 2566” กิจกรรมจับคู่ธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ณ อาคารทรู ดิจิทัล พาร์คกรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสและเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่ช่องทางตลาด Modern Trade ผ่านการจับคู่ธุรกิจ นำโดย Modern Trade ชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ 7-11, TOPS, Gourmet Market, Lotus’s, Big C, Robinson Lifestyle และ Makro
ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “หลักเกณฑ์และความต้องการสินค้าของตลาด Modern Trade” เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ในการจับคู่ธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาสินค้า SMEs ให้มีศักยภาพพร้อมเข้าสู่ตลาด Modern Trade มากยิ่งขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs ยังคงมีข้อจำกัดในการเข้าถึงทรัพยากร เทคโนโลยีและนวัตกรรม อุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมถึงอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาในหลากหลายด้าน อาทิ การรวมกลุ่มในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านธุรกิจ การสนับสนุนให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพัฒนาบุคลากร โดยผ่านโครงการส่งเสริมศักยภาพต่าง ๆ และการสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงและเข้าถึงช่องทางการจำหน่าย
ที่ผ่านมาหอการค้าฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ตลอดจนสนับสนุนช่องทางและตลาดใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมสำคัญ เช่น โครงการ Business Accelerator ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ช่องทางการขายผ่านการสร้างองค์ความรู้จากสถาบันชั้นนำของประเทศ และคำแนะนำจากบริษัทชั้นนำของประเทศ การจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ThaiFex เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสแสดงศักยภาพและนำเสนอนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มถือเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ดังนั้น กิจกรรม Big Match จึงเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของหอการค้าฯ ที่จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการเข้าสู่ตลาด Modern Trade ผ่านรูปแบบ Business Matching ซึ่งเชื่อมั่นว่ากิจกรรมนี้จะสามารถเพิ่มโอกาสทางการค้าและเชื่อมโยงช่องทางตลาด Modern Trade ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถต่อยอดธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ประธานคณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ กล่าวถึงบทบาทสำคัญของคณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ ซึ่งเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีหน้าที่ดำเนินงานตามนโยบายการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกร ผ่านโครงการจับคู่ธุรกิจ Big Match 2566 เพื่อสร้างโอกาสการเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ บูรณาการความร่วมมือ โดยผนึกกำลังกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ขณะเดียวกันจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจขึ้น ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 โดยผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรไทย จะได้นำเสนอสินค้าและผลผลิตเข้าเจรจาธุรกิจกับ Modern Trade ต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันภายใต้คณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ ผ่านช่องทางการขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งสามารถขยายผลช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 5 ตุลาคม 2566