พาณิชย์ กางแผนดัน SME โต 2.3 ล้านล้าน สั่งจัด OTOP ขายต่างด้าว
กระทรวงพาณิชย์ กางแผนดัน SME ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่า 2.3 ล้านล้าน ภายใน 5 ปี เล็งเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ จัดแพ็คสินค้าชุมชน OTOP ที่เหมาะกับการยังชีพ ขายกลุ่มแรงงานต่างด้าว 2.5 ล้านคน
วันนี้ (13 ธันวาคม 2566) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทย โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนเข้าร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือด้านการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของประเทศ โดยวาระสำคัญได้มีการจัดทำโรดแมป มาตรการส่งเสริมและแก้ปัญหา SMEs เพื่อเพิ่มสัดส่วน GDP SMEs ไทย
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่า SMEs ให้ได้ 3 แสนล้านบาท ภายใน 1 ปีแรก (ปี 2566-2567) และนำไปสู่มูลค่า 5 แสนล้านบาท/ปี ภายในปี 2570 หรือเติบโตขึ้น 40% รวมเป็นมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท โดยกำหนดทิศทางการทำงานรวม 8 แนวทาง ดังนี้
1)กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมจัดหลักสูตรอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมทักษะให้ SMEs
2)สร้างอาชีพด้วยแฟรนไชส์ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ว่างงาน ผู้สนใจประกอบธุรกิจ และครอบครัวผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถเลือกซื้อแฟรนไชส์ตามความถนัด โดยแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง เพราะเท่ากับซื้อความสำเร็จจากเจ้าของธุรกิจ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้แฟรนไชส์ซีและแฟรนไชส์ซอร์ได้สร้างธุรกิจสร้างตัวไปพร้อมกัน
3)เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศด้วยการนำสินค้าชุมชน หรือ SMEs หรือ OTOP มาเสนอขายแก่ผู้บริโภคในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยกว่า 2.5 ล้านคน โดยจัดแพ็คเกจสินค้าที่เหมาะกับการยังชีพให้สะดวกต่อการเลือกซื้อสินค้า และมีระบบการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก และสามารถสร้างผู้บริโภคเพิ่มขึ้นได้ถึง 15 ล้านคน
4)เพิ่มมูลค่าสินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและนอกประเทศ
5)การบริหารจัดการสินค้าเกษตรเพื่อรักษาสมดุลราคาทั้งพืชไร่ พืชสวน และปศุสัตว์ เพื่อรองรับผลผลิตประมาณ 75,000 ตัน/ปี
6)พัฒนาร้านค้าโชห่วยด้วยระบบการค้าสมัยใหม่ นำเทคโนโลยี POS มาช่วยบริหารจัดการร้านค้า พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้สวยงาม เพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ให้เข้าใกล้ลูกค้ามากขึ้น และส่งเสริมการแข่งขันให้เท่าเทียมกัน
7)ส่งเสริมการเติบโต SMEs ในท้องถิ่น ผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) ให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้ามาแข่งขันในตลาดและเป็นคู่ค้ากับภาครัฐได้
8)สนับสนุนและสร้างมาตรฐานธุรกิจ E-Commerce โดยส่งเสริมให้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมรับเครื่องหมาย DBD Registered การันตีความมีตัวตน และเครื่องหมาย DBD Verified รับรองความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 13 ธันวาคม 2566