เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 นายอี จอง-โฮ รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีที เกาหลีใต้ (Ministry of Science and ICT: MSIT) เผยว่าปัจจุบันกําลังเตรียมเปิดสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งเกาหลีใต้ (Korea Aerospace Administration: KASA) ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่เหมือน NASA ของสหรัฐฯ 

 

 

โดยก่อนหน้านี้ รัฐสภาเกาหลีใต้ ได้ผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ รวมถึง พ.ร.บ. ว่าด้วยการบริหารการบินและอวกาศ (The Special Bill on Aerospace Administration) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 4 เดือนนับตั้งแต่วันที่ประกาศ 

 

KASA อยู่ภายใต้การกํากับดูแลของ MSIT มีหน้าที่รับผิดชอบการดําเนินโครงการการพัฒนาและวิจัยอวกาศ โดยจะกํากับดูแลนโยบายการบินและอวกาศ และการแสวงหาโอกาสความร่วมมือกับหน่วยงานด้านอวกาศของต่างประเทศ เช่น NASA ของสหรัฐฯ JAXA ของญี่ปุ่น ฯลฯ 

 

รัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งเป้าเพิ่มจํานวนบริษัทธุรกิจด้านการบินและอวกาศจาก 700 แห่ง เพิ่มเป็น 2,000 แห่ง และเพิ่มการสร้างงานด้านการบินและอวกาศจาก 20,000 ตําแหน่งในปี 2566 เป็น 500,000 ตําแหน่งภายในปี 2588 นอกจากนี้ ยังมุ่งกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ โดยตั้งเป้ากระตุ้นมูลค่า การลงทุนจาก 7 แสนล้านวอนเป็น 2 ล้านล้านวอนภายในปี 2573 และ 4 ล้านล้านวอนภายในปี 2588 เนื่องจากเกาหลีใต้มีเป้าหมายหลักเพื่อเป็นหนึ่งใน 5 มหาอํานาจด้านอวกาศของโลก และมุ่งครองส่วนแบ่งตลาดโลกในด้านอวกาศ ร้อยละ 10 (มีมูลค่าตลาด 420 ล้านล้านวอน) 

 

นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้จะดำเนินการให้สถาบันที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ 2 แห่ง ได้แก่ Korean Aerospace Research Institute (KARI) และ Korea Astronomy and Space Science Institute (KASI) ไปสังกัดภายใต้ KASA และกำลังเร่งสรุปกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกว่า 30 ฉบับเพื่อให้ KASA เริ่มดําเนินการได้เร็วที่สุดหลังการเปิดตัวสำนักงานฯ 

 

 

โดยขณะนี้ KASA อยู่ระหว่างการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็น นักวิจัย 200 ตําแหน่ง และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร 100 ตําแหน่ง ทั้งนี้ ในระหว่างที่รอกระบวนการต่าง ๆ แล้วเสร็จ จะมีการเปิดสำนักงานชั่วคราวของ KASA ที่เมืองซาซอน จ.คยองซังใต้ เพื่อปฏิบัติงานชั่วคราวในครึ่งแรกของปี 2567 (ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 26 มกราคม 2567