ตม.จีนรายงานว่า การเดินทางขาเข้าและขาออกของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบพุ่งทะยานในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึง (10-17 ก.พ.) ซึ่งเป็นยอดการเดินทางคืนสู่ระดับปกติก่อนเกิดโควิดในปี 2019 แล้ว สื่อจีนเผยยอดจองตั๋วมาไทย-สิงคโปร์-มาเลเซีย เพิ่มขึ้นมากกว่า 15 เท่า

 

สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีน รายงานอ้างอิงข้อมูลจาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ หรือ ตม.จีน  ระบุว่า การเดินทางขาเข้าและขาออก ของ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วง วันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 10-17 ก.พ.นี้ อาจจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 3.3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2566 และ 3 ชาติอาเซียน คือไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย คือ จุดหมายปลายทางยอดนิยมมากที่สุด 

 

 

ทั้งนี้ กลุ่มท่าอากาศยานนานาชาติแห่งสำคัญของจีนจะมีปริมาณผู้โดยสารหมุนเวียนสูงสุดระหว่างวันที่ 8-11 ก.พ. และ 16-17 ก.พ. ส่วนกลุ่มด่านบก ติดกับฮ่องกงและมาเก๊าจะมีปริมาณผู้โดยสารหมุนเวียนสูงสุดระหว่างวันที่ 11-15 ก.พ.นี้

 

ตม.จีนระบุว่า หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองตามพรมแดนจะเพิ่มการเฝ้าติดตามปริมาณผู้โดยสารหมุนเวียน และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที เพื่อเกื้อหนุนการเข้าและการออกที่มีประสิทธิภาพในช่วงวันหยุดยาวนี้ นอกจากนี้ ยังเสริมว่า ควรมีการจัดสรรบุคลากรให้เพียงพอบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรับประกันว่าพลเมืองจีนต่อคิวทำพิธีการศุลกากรด้วยระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที พร้อมกันนี้ ยังพร้อมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อจัดการการหมุนเวียนของนักเดินทาง ขยายชั่วโมงการทำพิธีการศุลกากร และสนับสนุนการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนด้วย

 

ทัวริสต์คึกคักจองเที่ยวไทย-สิงคโปร์-มาเลเซีย :

 

ด้านโกลบอล ไทมส์ สื่อภาษาอังกฤษของจีนเผยว่า จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในต่างประเทศที่ชาวจีนมุ่งหน้าไปในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้คือ ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งยอดจองตั๋วเดินทางไปสามประเทศนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 15 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 

 

สื่อใหญ่ของจีนระบุปัจจัยหนุนการไหลทะลักออกท่องเที่ยวนี้คือมาตรการเปิดประเทศของจีนเอง ซึ่งรวมถึงการเดินหน้าทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) กับประเทศต่างๆ รวมทั้งล่าสุดกับไทย ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 มี.ค.และเป็นการยกเลิกวีซ่าถาวรระหว่างกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและกึ่งราชการ 

 

แต่ระหว่างนี้จนถึงสิ้นเดือนก.พ.ชาวจีนสามารถมาเยือนไทยแบบฟรีวีซ่าได้อยู่แล้ว และอีกปัจจัยหนุนสำคัญคือ จีนมีวันหยุดยาวที่เรียกว่า Spring Festival หรือวันหยุดเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ 10-17 ก.พ. ทำให้คลื่นนักเดินทางทะลักออกต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว

 

และเนื่องจากทั้งสามประเทศในอาเซียนที่กล่าวมา คือไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ต่างมีการลงนามยกเว้นวีซ่ากับจีนแล้ว ทำให้จีนกลายเป็นต้นทางของนักท่องเที่ยวที่สามชาติอาเซียนมีความหวังว่าจะเข้ามาสร้างความคึกคักให้กับการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศในช่วงเวลานี้

 

เว็บไซต์ Trip.com ที่เป็นแพลตฟอร์มจองการท่องเที่ยวรายใหญ่ของจีนเปิดเผยว่า ยอดจองตั๋วเดินทางมายัง  ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในช่วง Spring Festival ของปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 15 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 

 

 

โดยอัตราดังกล่าวถือเป็นอัตราเฉลี่ย แต่หากดูเจาะเป็นประเทศๆจะพบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนจองตั๋วแห่มาเที่ยวไทยและสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากกว่า 13 เท่า ขณะที่จองตั๋วเที่ยวมาเลเซียเพิ่มขึ้นมากกว่า 22 เท่า

 

นายฉิน จิง รองประธาน Trip.com เปิดเผยว่า ความตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างจีนกับประเทศยอดนิยมที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอย่างไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในจีนและประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยว “ยู-ทัวร์” (U-tour)ชี้ว่า สามประเทศนี้คือจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้น (short-haul destinations) โดยสามารถครองส่วนแบ่งเกือบ 90% ของยอดจองการท่องเที่ยวของชาวจีนในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

 

และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติของจีน (Civil Aviation Administration of China)ระบุว่า สายการบินต่างๆได้จัดเพิ่มเที่ยวบินในช่วงเทศกาลวันหยุดมากกว่า 2,500 เที่ยวบิน ตอบสนองความต้องการเดินทางทั้งแบบระหว่างประเทศและแบบเช่าเหมาลำ

 

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567