การทำความเข้าใจแนวโน้มของอุตสาหกรรมค้าปลีก และการติดตามเทรนด์ต่างๆ ที่น่าสนใจในสิงคโปร์จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำมาปรับให้เหมาะสมสำหรับธุรกิจและเพื่อการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งธุรกิจเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย

 

1)ธุรกิจร้านกาแฟ (Caf้) สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการนั่งร้านกาแฟ ความต้องการกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) และประสบการณ์จากคาเฟ่ต่าง ๆ จึงทำให้ธุรกิจร้านกาแฟมีเพิ่มมากขึ้น

 

2)ร้านเบเกอรี่  (Bakery) ความชื่นชอบกลุ่มขนมอบ Pastry และขนมปังคุณภาพสูง หรือแนว Artisan ได้เพิ่มมากขึ้นในสิงคโปร์ จึงอาจเจาะกลุ่มความต้องการซื้อของผู้บริโภคได้จากการขายขนมปังที่มีรสชาติเฉพาะตัว มีรูปร่างหน้าตาสร้างสรรค์ และมีทางเลือกดีต่อสุขภาพ 

 

3)ร้านค้าอาหารออร์แกนิค (Organic Food Store) เนื่องจากการดูแลสุขภาพกลายมาเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดสินค้าออร์แกนิคและธรรมชาติเติบโตเพิ่มขึ้นในสิงคโปร์ผ่านสินค้าอย่างขนมขบเคี้ยว อาหารหลัก หรือของสดออร์แกนิค เพื่อเจาะกลุ่มชาวสิงคโปร์ที่รักในสุขภาพ

 

4)ร้านเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (Pet Store) จากจำนวนผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในสิงคโปร์ ร้านสัตว์เลี้ยงสามารถเจาะกลุ่มสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง เครื่องประดับ หรือบริการอาบน้ำ/ตัดขนสัตว์เลี้ยงได้

 

5)ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (Furniture Business) สิงคโปร์มีตลาดอสังหาฯ ที่รุ่งเรือง จากการที่ผู้คนย้ายบ้าน หรือปรับปรุงบ้านอย่างต่อเนื่อง จึงก่อให้เกิดความต้องการซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์ โดยสินค้าที่ออกแบบดีจะสามารถได้ลูกค้าทั้งกลุ่มที่พักอาศัยและกลุ่มธุรกิจ

 

6)ร้านเสริมความงามและการดูแลตัวเอง (Beauty Salon) อุตสาหกรรมความงามและการดูแลตัวเองเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมากในสิงคโปร์ ร้านเสริมความงามที่อยู่ในที่ตั้งที่ดี และสามารถให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การทำผม ทำเล็บ จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้ทั้งชาวสิงคโปร์ และชาวต่างชาติที่มาทำงานในสิงคโปร์

 

7)ร้านแฟชั่นบูติก (Fashion Boutique) สิงคโปร์เป็นประเทศที่ให้ความสนใจในแฟชั่น ผู้ซื้อจะสนใจร้านค้าที่คัดสรรเสื้อผ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยร้านเหล่านี้จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่รู้จักสไตล์/เทรนด์ ที่หลากหลาย

 

8)ร้านค้าสินค้าทำมือ (Handmade Seller) ตลาดสินค้าทำมือไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน หรือเสื้อผ้าสามารถเจาะกลุ่มความต้องการลูกค้าที่ต้องการของที่มีเอกลักษณ์หรือได้รับการออกแบบเฉพาะบุคคล

 

9)ร้านค้าอุปกรณ์เทคโนโลยี (Tech Accessories Shop) สิงคโปร์เป็นประเทศที่ผู้คนต่างชอบในเทคโนโลยี ก่อให้เกิดการแสวงหาอุปกรณ์แกดเจ็ตใหม่ๆ หรือความต้องการซื้ออุปกรณ์ตกแต่งที่ใช้งานได้หลายแบบ

 

10)ร้านค้าสินค้าออกแบบเฉพาะบุคคล (Customized Gift Store) ชาวสิงคโปร์ให้คุณค่ากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ดังนั้นการให้ของขวัญที่ออกแบบเฉพาะบุคคลจะทำให้ผู้รับชื่นชอบเป็นพิเศษ ดังนั้นร้านค้าที่สามารถให้บริการของขวัญที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคลจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มองหาของขวัญที่มีความหมายในโอกาสพิเศษต่างๆ 

 

11)ร้านค้าเสื้อผ้าออกกำลังกาย (Fitness Apparel Store) จากเทรนด์ให้ความสำคัญกับสุขภาพและการออกกำลังกาย ก่อให้เกิดความต้องการซื้อเสื้อผ้าออกกำลังกายที่ทันสมัย และตอบสนองการใช้งานมากขึ้น 

 

12)ร้านค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฮม (Smart Home Devices Store) ชาวสิงคโปร์ได้นำเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็น Smart Nation ร้านค้าที่คัดสรรสินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฮมสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเทคโนโลยีเพื่ออนาคต 

 

13)ร้านของเล่น (Toy Store) สิงคโปร์มีกลุ่มประชากรเด็ก/วัยรุ่น ที่พ่อแม่พร้อมที่จะลงทุนกับของเล่นเพื่อการศึกษา/ความบันเทิงให้กับลูกๆ ดังนั้นร้านของเล่นสามารถเจาะความต้องการซื้อที่หลากหลายของครอบครัวสำหรับสินค้ากลุ่มนี้ได้ 

 

14)ร้านค้าแบบ Pop-Up Store สำหรับสินค้าใช้ฝีมือ (Pop-Up Shop for Local Artisans) ชาวสิงคโปร์มีความชื่นชอบในสินค้าที่ใช้ทักษะฝีมือ ดังนั้น ร้านค้าแบบ Pop-Up ที่มีสินค้ากลุ่มนี้จะช่วยสนับสนุนคนที่มีความสามารถ ความสนใจในความยั่งยืนที่เพิ่มมากขึ้น และสินค้าที่ผลิตในประเทศ

 

สินค้าไทยมีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น สินค้าทำมือ สินค้าเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งล้วนแต่มีความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพดี การทำความเข้าใจในเทรนด์/พฤติกรรมผู้บริโภคในสิงคโปร์ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปปรับใช้เพื่อก่อให้เกิดโอกาสในการค้าต่าง ๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยในตลาดสิงคโปร์และต่างประเทศต่อไป

 

ที่มา globthailand

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567