ปธ.หอค้า แนะ ดึงผู้นำชุมชน เพิ่มบทบาทแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ย้ำรัฐจำเป็นต้องมีมาตรการเสริมควบคู่

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย มติชน ว่า หอการค้าไทย ชื่นชมในความมุ่งมั่นของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบให้กับประชาชน 

 

ซึ่งจากการแถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบของรัฐบาล ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทราบว่า มีผู้ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบแล้วมากกว่า 140,000 ราย มูลหนี้ราว 9,800 ล้านบาท และมีการไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว12,000 ราย ทำให้มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดี 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ได้รับการแก้ไขหนี้สำเร็จแล้วยังถือเป็นว่ามีส่วนน้อย เมื่อเทียบกับมูลหนี้ครัวเรือนที่รัฐบาลประเมินว่าน่าจะสูงถึง 5 แสนล้านบาท ขณะที่ตัวเลขการคาดการของมหาวิทยาลัย

 

หอการค้าไทย มูลหนี้ทั้งระบบจะสูงถึง 3 ล้านล้านบาท แสดงให้เห็นว่ามีตัวเลขที่ไม่ตรงกันและยังมีเจ้าหนี้และลูกหนี้อีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าร่วมกระบวนการไกล่เกลี่ย ในมุมที่ตัวเลขที่คลาดเคลื่อนกันเยอะนี้ ทางคณะกรรมร่วมภาคเอกชน( กกร.) ก็มีการหารือกันว่า จะต้องมีการเก็บข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น จะได้ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือได้

 

” ภาคเอกชนเสนอว่านอกจากการใช้กลไกระดับจังหวัดในการกระจายข่าวสารและอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนแก้หนี้แล้ว ควรเน้นโดยให้ผู้นำชุมชนให้ดำเนินกิจกรรมเชิงรุก โดยเข้าสอบถามและชี้นำให้ประชาชนในชุมชน โดยเพิ่มบทบาทผู้นำของชุมชน ที่มีหนี้นอกระบบไปลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้ ซึ่งกืจกรรมเขิงรุกนี้จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกหนี้ให้ยอมเปิดใจเข้าสู่กระบวนการแก้หนี้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ”

 

นายสนั่น กล่าวต่อว่า ภาคเอกชนในนาม กกร. ได้พูดคุยถึงแนวทางที่สถาบันการเงินจะช่วยสนับสนุนมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ของ ธปท. เพราะเป็นแนวทางที่สามารถช่วยแก้หนี้ให้กับประชาชนได้จริง ซึ่งจะได้มีความต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 โดย หอการค้าไทยฯมุ่งเน้นว่าทุกภาคส่วนควรให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีภาระหนี้สูง และรายได้ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่าภูมิภาค

 

” มาตราการต่างๆที่ดำเนินการไปแล้ว อยากให้ภาครัฐและ ธปท. ติดตามประเมินผลกระทบของมาตรการต่อการเข้าถึงสินเชื่อใหม่ และทบทวนมาตรการแก้หนี้ที่ดำเนินการไปว่าสำเร็จมากน้อยขนาดไหนด้วย ” นายสนั่น กล่าว

 

นายสนั่น กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน หอการค้า เห็นว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการเสริมควบคู่กับการแก้หนี้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะการยกระดับรายได้ของประชาชนในภาคการเกษตร และภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงเสริมสร้างวินัยทางการเงิน ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการเงิน และการออมเงินระยะยาว เพื่อไม่ก่อให้เกิดหนี้บริโภคหมุนเวียนซ้ำอีก

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 13 ภุมพันธ์ 2567