ม.หอค้า กางปัจจัยต่อส่งออกปี 67 บวก 2.5% เผย 20 กลุ่มสินค้าดาวเด่นดาวรุ่ง พลิกตามแรงงานหายาก-สังคมสูงวัย

 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ทิศทางส่งออกไทยปี 2567 คาดบวก 2.5% มูลค่า 2.91 แสนล้านหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 9 ล้านล้านบาท จากปี 2566 ติดลบ 1% ซึ่งทุกตลาดส่งออกมีการขยายตัวดีขึ้น

 

ปัจจัยหนุนคือ ไอเอ็มเอฟมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก ขยายตัวเพิ่มอีก 0.2% จาก 2.9% เป็น 3.1% การค้าระหว่างประเทศขยายตัว 3.3% ค่าเงินบาทอ่อนค่าช่วงครึ่งปีหลัง2567 ส่งผลดีต่อการแข่งขันด้านราคาส่งออก เงินเฟ้อโลกลดลง กดดันดอกเบี้ยขาลงคาดเฟดเริ่มลดดอกเบี้ยเดือนมิถุนายนนี้ ส่งผลให้หลายประเทศปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และกระตุ้นใช้จ่าย สำหรับปัจจัยเสี่ยง คือ เหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งสินค้าทะเลแดง ยังยื้ดเยือจะกะทบต่อค่าระวางเรือสูงขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังมีข้อจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ค่าเงินบาทผันผวนแข็งค่า

 

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับสินค้าส่งออกดาวเด่นและดาวรุ่งในปี 2567 ที่วิเคราะห์บนข้อมูลการขยายตัว และสัดส่วนการส่งออก รวมถึงปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ปรับการผลิตโดยใช้เครื่องจักรแทนแรงงานที่หายากและสังคมสูงวัยสูงขึ้น พบว่า 10 สินค้าดาวเด่น ได้แก่ 1. น้ำมันสำเร็จรูป ผลจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว 2.โทรศัพท์และอุปกรณ์ จากทั่วโลกต้องการใช้สูงขึ้นและมีถึง 5.2 พันล้านเครื่อง 3. อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ 4. ผลไม้สด 5. หม้อแปลงไฟฟ้า 6. รถยนต์และชิ้นส่วน 7. เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 8. แผงวงจรไฟฟ้า 9. ไม้ โดยเฉพาะจีนนำเข้ามากจากอสังหาฯในประเทศฟื้นตัว 10. เครื่องจักรกล ทดแทนแรงงานจากสังคมสูงวัย

 

ขณะที่สินค้าดาวรุ่ง ได้แก่ รถแทรกเตอร์ 2. กระเป๋าเดินทาง 3. ไก่สด 4. โคมไฟ 5. เส้นใยประดิษฐ์ 6. นาฬิกาและส่วนประกอบ จากตลาดสะสมนาฬิกาหรูเพิ่มขึ้นมาก 7. อุปกรณ์ไฟฟ้า สัญญาณเสียง 8. เครื่องมือการแพทย์ 9. มอเตอร์ไฟฟ้า และ10. เนื้อสัตว์เพื่อการบริโภค

 

ที่มา มติชนออนไลน์

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567