มัดรวมวิธีเล่นน้ำ "สงกรานต์ 2567" ให้ "ปลอดภัย-ปลอดโรค"
"สงกรานต์ 2567" เปิดเคล็ดลับคำแนะนำสำคัญเล่นน้ำสงกรานต์ให้ปลอดภัยและปลอดโรค จากหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสุขภาพเพื่อช่วยให้การเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 เป็นไปอย่างปลอดภัย และปลอดจากความเสี่ยงด้านสุขภาพ
สงกรานต์ 2567 เป็นหนึ่งในเทศกาลแห่งความสุขที่ใครหลายคนต่างรอคอย ขณะที่อีกหลายคนใช้ช่วงเวลาหยุดยาวหลายวันนี้เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือแพ็กกระเป๋าท่องเที่ยวในต่างจังหวัดและเข้าร่วมประเพณีเล่นน้ำสงกรานต์ตามจังหวัดต่าง ๆ ของไทยซึ่งปีนี้ประเทศไทยจัดอย่างยิ่งใหญ่เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ

อย่างไรก็ดี เราควรระมัดระวังตัวเองและผู้อื่นในการเล่นน้ำสงกรานต์ในช่วงเวลานี้ รวมถึงช่วงที่มีการเดินทางเพื่อให้เทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยและปลอดโรคที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองและคนรอบข้างได้ โดยระหว่างนี้หลายหน่วยงานต่างให้ข้อมูลกับประชาชนเพื่อร่วมรณรงค์เล่นน้ำ "สงกรานต์ปลอดภัย 2567"
เริ่มจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับประชาชน "สงกรานต์ เล่นน้ำอย่างไร ให้ปลอดภัย" โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ก่อนเล่นน้ำสงกรานต์ 2567 :
* สวมเสื้อผ้าสีอ่อน หลวม น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี
* พกน้ำดื่มติดตัวไว้เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
* สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดดและทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป
* ใส่รองเท้าแตะ เพื่อป้องกันการอับชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคเชื้อราที่เท้า
ช่วงเล่นน้ำสงกรานต์ 2567 :
* ดื่มน้ำบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์น้ำหวาน น้ำอัดลม
* ไม่เล่นน้ำกลางแจ้งเป็นเวลานานโดยเฉพาะช่วงเวลา11.00 – 15.00 น.
* ควรเล่นเป็นกลุ่ม และหากมีอาการตัวร้อนจัด ผิวหนังแดงและแห้ง เหงื่อไม่ออก สับสน มึนงง ให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิดเพื่อพาไปพบแพทย์
* ไม่เล่นน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดเพราะอาจป่วยหรืออาจเกิดอุบัติเหตุได้
หลังเล่นน้ำสงกรานต์ 2567 :
* รีบอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
* สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
* ดื่มน้ำบ่อย ๆ ไม่ต้องรอกระหาย
* อยู่ในบ้าน หรือกักบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท
* ไม่เปิดพัดลมจ่อตรงตัว
ด้าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็มีคำแนะนำที่น่าสนใจหลายประการที่สามารถนำไปปรับใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้ได้ ดังนี้
(1)ป้องกันหวัด :
หลายคนมักชอบทานยาแก้หวัดก่อนออกไปเล่นน้ำสงกรานต์เพราะคิดว่าช่วยป้องกันหวัดได้ โดยเราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยการดื่มน้ำผลไม้คั้นสดที่ช่วยเพิ่มวิตามินเพื่อป้องกันหวัดได้
(2)ระวัง 4 โรคสำคัญ :
* การจมน้ำ การแช่น้ำนาน 2-3 ชั่วโมง อาจเป็นตะคริวจนจมน้ำเสียชีวิตได้
* เป็นลมแดด ป้องกันด้วยการดื่มน้ำสะอาด และควรสวมหมวกหรือกางร่มเมื่อต้องออกไปเจอแดด
* อาหารเป็นพิษ อาหารที่ทำไว้เกิน 2-3 ชั่วโมง มีโอกาสที่จะเสียได้ง่าย ในช่วงฤดูร้อนจึงควรสังเกตอย่างละเอียด
* ตาแดง หากน้ำที่ไม่สะอาดเข้าตาอาจทำให้ตาแดงได้ หรือเข้าปากจะทำให้ท้องเสีย จึงควรใช้น้ำประปา หรือน้ำจากแหล่งน้ำที่สะอาดในการเล่นน้ำ
(3)ใช้ดินสอพองที่ได้มาตรฐาน :
ดินสอพองที่ไม่ได้มาตรฐานมักมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์และโลหะหนัก ซึ่งหากสัมผัสดวงตาหรือบาดแผล อาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงจนถึงขั้นร้ายแรงสุด คือ ตาบอดได้
(4)ไม่สาดน้ำเย็น :
การสาดน้ำเย็นจัด เช่น น้ำผสมน้ำแข็ง อาจทำให้เป็นปอดบวมได้ง่ายขึ้นแล้วยังอาจเป็นอันตราย เช่น หูอื้อ แก้วหูทะลุ ซึ่งน้ำที่ไม่สะอาดอาจก่อให้เกิดอาการหูน้ำหนวกได้
(5)ตรวจสอบการเดินทาง :
เช่น การตรวจสอบสภาพรถ เส้นทาง และที่สำคัญเมาไม่ขับ
(6)เลือกปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันน้อย :
ควรเลือกปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันน้อย ฉีดน้ำออกมาเป็นลักษณะฝอยกระจาย ไม่ใช่พุ่งตรงเป็นเส้นเดียว และควรฉีดได้ไม่ไกลกว่า 6 เมตร จึงจะปลอดภัย การเปลี่ยนมาใช้ขันแทนดีที่สุด
(7)ไม่หัวร้อนขณะขับรถ :
คนใจร้อน ควรเปิดเพลงช้า ๆ ฟังจะช่วยปรับจิตใจให้สงบลงได้ เห็นใจผู้ร่วมทางด้วยกัน รู้จักเสียสละกันสักนิด ยอมทนรอกันสักหน่อย อุบัติเหตุหรือปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น เป็นต้น
ข้อมูล กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 9 เมษายน 2567