สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ที่โดดเด่นทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยบริษัทที่ปรึกษา Savills ได้จัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีทางการเงินอันดับที่ 4 ของโลก จาก 47 เมืองทั่วโลก รองจากนิวยอร์ก ลอนดอน และซานฟรานซิสโก ซึ่งการจัดอันดับดังกล่าว พิจารณาจากความพร้อมทางธุรกิจ ความพร้อมทางเทคโนโลยี ความพร้อมของเมือง และความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์ 

 

สิงคโปร์ยังมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนด้าน FinTech เข้าประเทศได้อย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนด้าน FinTech ในสิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 5,578 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2564 มีมูลค่า 4,625 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และปี 2563 มีมูลค่า 3,129 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งทำให้เห็นว่า FinTech ของสิงคโปร์เติบโตสวนทางกับกระแสการลงทุนด้าน FinTech ของโลกที่มีแนวโน้มลดลงในปี 2565 

 

โดย FinTech ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการระดมทุนในสิงคโปร์ ได้แก่ เทคโนโลยีเงินดิจิทัล/บล็อกเชน (Crypto/Blockchain) เทคโนโลยีการชําระเงิน (Payments) และเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) และจากข้อมูลของธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore: MAS) เดือนพฤศจิกายนปี 2566 พบว่า สิงคโปร์มีบริษัทด้าน FinTech มากกว่า 1,300 แห่ง 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งเสริมความสำเร็จของ FinTech ในสิงคโปร์ ได้แก่ 

 

(1) การผลักดันจากภาครัฐทั้งเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ โดยการสนับสนุนสตาร์ทอัพอย่างครบวงจรตั้งแต่การตั้งต้นธุรกิจ การใช้งานเชิงพาณิชย์ การขยายกิจการไปยังต่างประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพ 

 

(2) รากฐานทางธุรกิจการเงินที่มั่นคง สิงคโปร์มีระบบธนาคารที่มั่นคงและกฎระเบียบการบังคับใช้กฎหมายด้านการเงินที่เข้มงวดชัดเจน รวมทั้งมีความพร้อมของบุคลากรในธุรกิจการเงิน ซึ่งช่วยดึงดูดผู้ประกอบการ FinTech เข้ามาในประเทศและสามารถต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และ 

 

(3) ความพร้อมของระบบนิเวศด้าน FinTech สิงคโปร์มี accelerators และ incubators ด้าน FinTech จำนวน 35 ราย มีนักลงทุนและสถาบันการลงทุนซึ่งสนใจในสตาร์ทอัพด้าน FinTech จำนวน 180 ราย มีการจัดงาน Singapore FinTech ระดับภูมิภาค ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ เพื่อดึงดูดและเชื่อมโยงผู้ประกอบการและนักลงทุนเข้าด้วยกัน

 

นอกจากนี้ ความสำเร็จด้านการพัฒนา FinTech ของสิงคโปร์ ยังเป็นผลจากการสร้าง FinTech Regulatory Sandbox โดยธนาคารกลางสิงคโปร์ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 450 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อสนับสนุน Financial Sector Technology and Innovation (FSTI) ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2558 – 2569 เพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันการเงินและสตาร์ทอัพด้าน FinTech เข้าร่วมทดสอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยีทางการเงินก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ 

 

โดยพื้นที่ทดสอบเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมจริงในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด มีการผ่อนปรนระเบียบข้อบังคับบางประการระหว่างการทดสอบ และมีแนวทางการรับมือเพื่อป้องกันผลกระทบจากความผิดพลาดของการทดสอบต่อระบบการเงินของประเทศด้วย (ข้อมูล สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์)

 

ที่มา globthailand

วันที่ 27 เมษายน 2567