ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก ดาวโจนส์ร่วง 1,000 จุด ดัชนีแนสแด็กคอมโพสิตร่วง3.43% หุ้นบิ๊กเทค "7 นางฟ้า" มาร์เก็ตแคปหายรวม 653,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันเดียว 

 

วันที่ 6 สิงหาคม 2024 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่การซื้อขายในวันที่ 5 สิงหาคม 2024 ของฝั่งตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปที่เปิดทำการก่อนได้เผยให้เห็นว่าดัชนีตลาดหุ้นเกือบทุกตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย จึงมีการโยกเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยง

 

ต่อมา หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดวันที่ 5 สิงหาคม 2024 (6 สิงหาคม เวลาไทย) ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่สูญเสียมูลค่าตลาดไปรวมกันประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาหุ้นตกลงอย่างหนัก ทำให้ตลาดหุ้นแนสแด็ก (Nasdaq) เข้าสู่ภาวะปรับฐานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) ร่วง 1,033.99 จุด หรือ 2.6% ปิดที่ 38,703.27 จุด ดัชนีแนสแด็กคอมโพสิต (Nasdaq Composite) ร่วงลง 3.43% และปิดที่ 16,200.08 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ร่วงลง 3% ปิดที่ 5,186.33 จุด ซึ่งเป็นวันที่ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ขาดทุนรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 

 

เอ็นวิเดีย (Nvidia) บริษัทชิปประมวลผลที่ใช้ในการพัฒนา AI ซึ่งเป็นหุ้นที่ร้อนแรงสุด ๆ ในช่วงก่อนหน้านี้สูญเสียมาร์เก็ตแคปไปมากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ขณะเปิดตลาด แต่ฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วประมาณครึ่งหนึ่งของมูลค่าที่สูญเสียไป และปิดตลาดลดลง 6.4% มาร์เก็ตแคปหายไป 168,000 ล้านดอลลาร์

 

มาร์เก็ตแคปของ Apple และ Amazon ร่วงลง 224,000 ล้านดอลลาร์ และ 109,000 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ขณะเปิดตลาด ก่อนที่ Apple จะปิดตลาดด้วยราคาที่ลดลง 4.8% หรือหายไป 162,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Amazon ปิดลดลง 4.1% หรือหายไป 72,000 ล้านดอลลาร์

 

เมื่อรวมมูลค่าตามราคาตลาดที่ลดลงอย่างรวดเร็วของ เมตา (Meta), ไมโครซอฟท์ (Microsoft), อัลฟาเมต (Alphabet) และเทสลา (Tesla) แล้ว บรรดาบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุด 7 บริษัท ซึ่งเรียกว่า “7 นางฟ้า” (Magnificent 7) สูญเสียมูลค่าตามราคาตลาดไป 995,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเริ่มต้นของการซื้อขายในวันที่ 5 สิงหาคม ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน 

 

โดยสรุปเมื่อปิดการซื้อขายวันที่ 5 สิงหาคม ข้อมูลจากเว็บไซต์นิตยสารบาร์รอนส์ (Barron’s) ระบุว่า มาร์เก็ตแคปของหุ้น 7 นางฟ้าหายไป 653,000 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว 

 

ซีเอ็นบีซีรายงานอีกว่า เหตุที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม เนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในสัปดาห์ที่ก่อนหน้านี้

 

ดัชนีนิกเคอิ 225 (Nikkei 225) ของญี่ปุ่นร่วงลง 12% ซึ่งเป็นวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ Black Monday หรือ วันจันทร์ทมิฬ ของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อปี 1987

 

ในฝั่งบิตคอยน์ร่วงลง 11% ส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลและหุ้นที่เกี่ยวข้องถูกเทขายด้วย 

 

ซีเอ็นบีซีระบุว่า ในหมวดหุ้นบริษัทเทคโนโลยีนั้น นักลงทุนเริ่มวิตกกังวลมาหลายสัปดาห์แล้ว ดัชนีแนสแด็กร่วงลง 3.4% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งนับเป็นช่วง 3 สัปดาห์ที่แย่ที่สุดในรอบ 2 ปี ก่อนที่จะร่วงลงอีก 3.4% ในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากในรายงานผลการดำเนินงานล่าสุดของแอมะซอน อัลฟาเบต และไมโครซอฟต์ ซึ่งล้วนแต่มีเหตุผลที่สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนในตลาด ส่งผลให้ในกลุ่มเดียวกันร่วงลงด้วย 

 

นอกจากนั้น บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันที่ 6 สิงหาคมว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ล่าสุด มูลค่าหุ้นทั่วโลกหายไปแล้วรวม 6.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 6 สิงหาคม 2567